การทำงานและอวัยวะส่วนใหญ่ของร่างกายสุนัขถูกควบคุมโดยระบบประสาท นั่นเป็นเหตุผลที่การเปลี่ยนแปลงทางระบบประสาทสามารถส่งผลต่อความเป็นอยู่ทั่วไปของสัตว์เลี้ยงได้ ระบบประสาทของสุนัขมีความสำคัญต่อการทำงานที่ถูกต้องของร่างกาย ควบคุมตั้งแต่การเคลื่อนไหวของอุ้งเท้าไปจนถึงการเต้นของหัวใจ ทุกวันนี้ สุนัขตัวเล็กประมาณ 10% ที่พบในคลินิกสัตวแพทย์มีโรคบางชนิดที่ส่งผลต่อระบบประสาท สุนัขที่มีปัญหาทางระบบประสาทจำเป็นต้องได้รับการวินิจฉัยอย่างรวดเร็วเพื่อให้การรักษามีประสิทธิภาพมากที่สุด Paws of the House แยก 6 สิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับระบบประสาทของสุนัขเพื่อช่วยให้คุณเข้าใจวิธีการทำงานได้ดีขึ้น และโรคใดบ้างที่มีแนวโน้มที่จะส่งผลต่อลูกสุนัขมากที่สุด

ระบบประสาทของสุนัขมีหน้าที่พื้นฐานสี่ประการ

โดยพื้นฐานแล้วระบบประสาทของสุนัขมีหน้าที่พื้นฐานสี่ประการ: หน้าที่บูรณาการ ซึ่งประสานการทำงานของอวัยวะต่างๆ การทำงานของประสาทสัมผัสซึ่งประสานความรู้สึกทั่วไปและความรู้สึกพิเศษ (การรับและสร้างสิ่งเร้า); ฟังก์ชั่นมอเตอร์ซึ่งดูแลการหดตัวของกล้ามเนื้อ (โดยสมัครใจและไม่ได้ตั้งใจ); และฟังก์ชันปรับตัว ซึ่งจะดูแลการปรับตัวของสัตว์ให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่อยู่ (เช่น เหงื่อออกและหนาว) เมื่อนำฟังก์ชันเหล่านี้มารวมกัน คุณจะเห็นว่ามันเป็นระบบประสาทของสุนัขซึ่งควบคุมการทำงานของร่างกายแทบทั้งหมดและรับประกันการทำงานที่เหมาะสมของสิ่งมีชีวิตของสัตว์

การแบ่งระบบประสาทของสุนัขเกิดขึ้นในระบบประสาทส่วนกลางและส่วนปลาย

เช่นเดียวกับในมนุษย์ ระบบประสาทของสุนัข ระบบประสาทแบ่งออกเป็นระบบประสาทส่วนกลาง (CNS) และระบบประสาทส่วนปลาย (PNS) ระบบประสาทส่วนกลางประกอบด้วยสมอง สมองน้อย และไขสันหลัง สมองของสุนัขประกอบด้วยเซลล์ประสาท (ซึ่งควบคุมการทำงานของจิต) เซลล์เกลีย (ซึ่งทำหน้าที่สนับสนุน) และหลอดเลือด แอกซอนของเซลล์ประสาทจับกลุ่มกันและสร้างสสารสีขาว ในขณะที่ร่างกายของเซลล์ประสาทมารวมกันและสร้างสสารสีเทา ซึ่งก่อให้เกิดเปลือกสมอง เยื่อหุ้มสมองแบ่งออกเป็นหลายส่วนและแต่ละส่วนรับผิดชอบหน้าที่บางอย่างของร่างกาย PNS ประกอบด้วยเส้นประสาทสมอง (ประสาทสัมผัสหรือเส้นประสาทสั่งการที่เชื่อมต่อกับผิวหนัง อวัยวะรับสัมผัสพิเศษ และกล้ามเนื้อศีรษะ) และเส้นประสาทไขสันหลัง (ซึ่งเลี้ยงส่วนลำตัว แขน ขา และส่วนของศีรษะ)

โรคในสุนัข ที่ส่งผลต่อระบบประสาท: ค้นหาว่าโรคใดพบได้บ่อยที่สุด

แต่น่าเสียดายที่มีโรคมากมายที่อาจส่งผลต่อระบบประสาทของสุนัข เนื่องจากระบบนี้มีหน้าที่ในการทำงานของอวัยวะต่างๆ สุนัขที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบประสาทจึงเป็นภาวะที่อันตราย เนื่องจากร่างกายทั้งหมดอาจได้รับผลกระทบได้ ตัวอย่างของโรคในสุนัขที่ส่งผลต่อระบบประสาทได้แก่

• โรคพิษสุนัขบ้า

• โรคตับอักเสบติดเชื้อในสุนัข

• โรคท็อกโซพลาสโมซิส

• โรคกระดูกสันหลังส่วนคอ (กลุ่มอาการโยกเยก)

• โรคลมชัก

• โรคหมอนรองกระดูกสันหลัง

อาการอัมพาตและอาการสั่นเป็นเรื่องปกติในสุนัขที่มีปัญหาทางระบบประสาท

วิธีหลักในการตรวจสอบว่าคุณมีสุนัขที่มีปัญหาทางระบบประสาทหรือไม่คือการให้ความสนใจกับ สัญญาณ พฤติกรรมบางอย่างของสุนัขของคุณอาจบ่งบอกถึงความเป็นไปได้ที่สุนัขจะเป็นโรคที่ส่งผลต่อระบบประสาท ในบรรดาอาการหลักได้แก่:

• อาการวิงเวียนศีรษะ

• การชัก

• อาการสั่นทั่วไป

• แขนขาเป็นอัมพาต

• อ่อนแรง

• การเดินเปลี่ยนไป

• นอนไม่หลับ <8

• ความรู้สึกและสภาพจิตใจเปลี่ยนไป

• หมดสติ

สุนัขที่มีปัญหาทางระบบประสาท: ควรเริ่มการรักษา ให้เร็วที่สุด

โรคที่ส่งผลต่อระบบประสาทของสุนัขมักไม่มีทางรักษา อย่างไรก็ตามมีวิธีรักษาอาการเพื่อให้เขามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สำหรับสุนัขที่มีปัญหาทางระบบประสาท การรักษาควรเริ่มต้นตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อหยุดไม่ให้โรคลุกลามและมีโอกาสรักษาได้ดีขึ้น ดังนั้นเมื่อแสดงสัญญาณใด ๆ คุณต้องพาสัตว์เลี้ยงไปหาสัตว์แพทย์ ที่นั่นแพทย์จะดำเนินการการตรวจที่จะยืนยันว่ามีหรือไม่และเป็นโรคอะไรในสุนัขที่ส่งผลต่อระบบประสาท หลังจากการวินิจฉัย สัตวแพทย์จะทราบรูปแบบการรักษาที่ดีที่สุด

สุนัขสมองฝ่อและสุนัขที่มีไซริงโกมีเลียเป็นตัวอย่างของสุนัขที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบประสาท

สุนัขบางสายพันธุ์ต้องประสบกับการเปลี่ยนแปลงเมื่อเวลาผ่านไป การดัดแปลงหลายอย่างทำให้สมองของสัตว์เหล่านี้เสียหาย ตัวอย่างที่ดีที่สุดคือสุนัขสมองฝ่อ สุนัขสายพันธุ์ปั๊ก ชิสุ และเฟรนช์บูลด็อกเกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์โดยมีจุดประสงค์เพื่อสร้างสายพันธุ์ที่มีจมูกเล็กกว่า ไม้กางเขนเหล่านี้ทำให้ขนาดกะโหลกของสัตว์เหล่านี้สั้นและเล็กกว่าปกติ นอกจากนั้นยังทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจอีกด้วย อีกตัวอย่างหนึ่งคือสุนัขที่มีไซริงโกมีเลีย ซึ่งเป็นภาวะที่ทำให้เกิดการสะสมของน้ำไขสันหลัง (น้ำไขสันหลัง) ในไขสันหลัง สิ่งนี้ทำให้เกิดความผิดปกติของ Chiari ซึ่งทำให้สมองมีขนาดใหญ่กว่ากะโหลกศีรษะ เหมือนกับว่าสมองถูกบีบอยู่ภายในกระโหลกศีรษะ ทำให้เกิดแรงกดมากและมักจะเจ็บปวด อาการนี้พบได้บ่อยในสุนัขพันธุ์เล็ก เช่น มอลทีส ชิวาวา และคาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สแปเนียล