อวัยวะเพศของแมวเป็นอวัยวะที่มีลักษณะเฉพาะหลายอย่างและมีลักษณะที่แปลกประหลาดอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเปรียบเทียบกับสัตว์สายพันธุ์อื่นๆ อาจดูเหมือนไม่ปกติที่ต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับจู๋ของแมว แต่คนเลี้ยงแมวทุกคนจำเป็นต้องเข้าใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับอวัยวะเพื่อถอดรหัสพฤติกรรมของสัตว์เลี้ยงและตรวจสอบสุขภาพของมัน การเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับลักษณะของอวัยวะสืบพันธ์ของแมวตัวผู้จะมีความสำคัญต่อการทำความเข้าใจว่าแมวผสมพันธุ์อย่างไร การตัดตอน ระบุเพศของสัตว์และอาการของโรคในภูมิภาค Paws of the House ได้เตรียมบทความฉบับสมบูรณ์เพื่อให้คุณเข้าใจได้ดีขึ้นว่าอวัยวะเพศของแมวเป็นอย่างไร และทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับอวัยวะ ตั้งแต่ลักษณะทางกายภาพไปจนถึงพฤติกรรม ตรวจสอบด้านล่าง!

จู๋ของแมวมีลักษณะอย่างไร

แมวมักจะเป็นสัตว์สงวน และจู๋ของแมวก็แทบจะไม่เคยถูกเปิดเผยเลย ส่วนใหญ่แล้ว อวัยวะสืบพันธุ์จะซ่อนอยู่ภายในหนังหุ้มปลาย (ส่วนที่มองเห็นได้และยื่นออกมาที่ฐานของท้อง) ความเป็นจริงนี้ทำให้เจ้าของมองเห็นอวัยวะเพศของแมวที่เปิดเผยได้ยาก โดยทั่วไปแล้วแมวจะไม่ปล่อยให้อวัยวะเพศหดกลับเมื่อทำความสะอาด และจะผ่อนคลายมากขึ้น อย่างไรก็ตาม โรคบางอย่างในบริเวณองคชาติสามารถทำให้แมวมีปัญหาในการเก็บองคชาตได้เนื่องจากการอักเสบ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องระมัดระวังเพราะบ่อยครั้งที่อวัยวะเพศของแมวที่เปิดเผยเป็นสัญญาณของโรคบางอย่าง

นอกจากนี้ แมวตัวผู้ที่โตเต็มวัยยังมีหนามเล็กๆ บนอวัยวะเพศที่เรียกว่า spicules คุณลักษณะนี้แม้จะผิดปกติแต่ไม่ได้มีเฉพาะในแมวเท่านั้น บิชอพและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดอื่น ๆ จำนวนมากมีหนามในบริเวณอวัยวะเพศชาย ความเฉพาะเจาะจงจะปรากฏเฉพาะหลังจากที่สัตว์มีวุฒิภาวะทางเพศแล้วเท่านั้น ในไม่ช้าลูกแมวจะไม่แสดงหนาม ในวงการวิทยาศาสตร์ การทำงานของลักษณะนี้ของอวัยวะเพศของแมวยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ ชุมชนส่วนใหญ่ชี้ให้เห็นว่าหนามทำหน้าที่กระตุ้นการตกไข่ของตัวเมีย

การผสมพันธุ์: แมวมีลักษณะพิเศษในการสืบพันธุ์

ตอนนี้คุณรู้แล้วว่าอวัยวะเพศของแมวตัวผู้มีหนาม , คุณต้องสงสัยว่าแมวสืบพันธุ์อย่างไร ใครก็ตามที่เคยเห็น (หรือได้ยิน) แมวสองตัวผสมพันธุ์กันจะต้องเดาได้ว่าเป็นเรื่องยากที่แมวจะผสมพันธุ์กันเพื่อเป็นแหล่งความสุข เนื่องจากหนามที่องคชาต การสืบพันธุ์ของแมวจึงไม่น่าพอใจนักสำหรับตัวเมียที่รู้สึกเจ็บปวดระหว่างการแสดง นอกจากนี้พฤติกรรมของผู้ชายในระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ก็มักจะรุนแรงเล็กน้อย แมวตัวเมียอาจพยายามหนี ซึ่งทำให้ตัวผู้ต้องกัดหลังลูกแมวเพื่อให้แน่ใจว่ามีการปฏิสนธิ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่จะมีเสียงรบกวนเกิดขึ้นระหว่างการเล่นแมว

การทำหมันแมวตัวผู้จำเป็นจริงหรือ

เรียกอีกอย่างว่า orchiectomy เป็นเรื่องปกติมากที่การทำหมันแมวจะเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันในหมู่ผู้สอน ตรงกันข้ามกับที่หลายๆ คนคิด การผ่าตัดไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับอวัยวะเพศของแมว ในความเป็นจริงการผ่าตัดประกอบด้วยการนำอัณฑะของแมวออกและดำเนินการโดยสัตวแพทย์ด้วยวิธีง่ายๆ แมวจะฟื้นตัวภายในสองสามวันหลังจากทำหัตถการ โดยไม่มีปัญหาใด ๆ ในกิจกรรมทางกายของมัน

แต่ท้ายที่สุดแล้ว การทำหมันแมวตัวผู้จำเป็นจริง ๆ หรือไม่? ประโยชน์ของการตัดอัณฑะมีหลากหลายทั้งสำหรับผู้ชายและผู้หญิง ข้อดีหลักประการหนึ่งของการผ่าตัดคือป้องกันการรั่วไหล ลดความเสี่ยงของโรคต่างๆ เช่น FIV, FeLV, มะเร็งอัณฑะ และภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ของระบบสืบพันธุ์

แมวทำหมันกำหนดอาณาเขตหรือไม่

การตัดอัณฑะมีส่วนรับผิดชอบต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของสัตว์ ซึ่งส่วนใหญ่เชื่อมโยงกับปัญหาทางเพศ แมวที่ยังไม่ได้ทำหมันมักจะฉี่ใส่อาณาเขตของมัน แต่พฤติกรรมนี้อาจเกิดขึ้นหลังการผ่าตัดได้หรือไม่? แม้ว่าจะไม่เกิดขึ้นบ่อยนัก แต่แมวที่ทำหมันแล้วอาจทำเครื่องหมายอาณาเขตด้วยปัสสาวะ หนวด หรือเล็บ แมวมีความไวต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมมาก และสิ่งนี้อาจทำให้พวกมันเกาเฟอร์นิเจอร์หรือฉี่นอกสถานที่เนื่องจากความเครียด พฤติกรรมของผู้เชี่ยวชาญสามารถตรวจสอบอาณาเขตของแมวหลังจากการตัดตอนได้

เมื่อใดควรตัดตอนแมวตัวผู้

ขั้นตอนที่ดีที่สุดในการตัดตอนแมวตัวผู้ แมวเป็นข้อสงสัยที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ ในหมู่ผู้ปกครองสัตว์เลี้ยง ไม่มีความเห็นเป็นเอกฉันท์เกี่ยวกับอายุที่เหมาะสมในการทำหมันแมว อย่างไรก็ตาม คำแนะนำคือควรทำการผ่าตัดหลังจากอายุ 1 ปีในแมวตัวผู้ ตามหลักการแล้ว ขั้นตอนควรทำใกล้กับ “แมววัยแรกรุ่น” ยิ่งแมวตัวผู้ทำหมันเร็วเท่าไหร่ ประโยชน์ที่ได้รับก็จะยิ่งมากขึ้นไปตลอดชีวิต สิ่งที่ดีที่สุดคือการพูดคุยกับสัตวแพทย์ที่มาพร้อมกับสัตว์เลี้ยงเพื่อหาเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการทำหมัน

แมวตัวผู้ที่ทำหมันแล้วสามารถผสมพันธุ์ได้หรือไม่

แมวตัวผู้ที่ทำหมันจะผสมพันธุ์กันได้แม้หลังการผ่าตัด ในบางสถานการณ์ ในบางกรณี ระดับเทสโทสเตอโรนของสัตว์ยังคงสูงอยู่หลังขั้นตอน ซึ่งทำให้สัตว์ต้องการผสมพันธุ์ นอกจากนี้ สถานการณ์ที่แมวอาศัยอยู่ก็มีอิทธิพลอย่างมากในเรื่องนี้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น หากลูกชายสี่ขาของคุณอาศัยอยู่กับผู้หญิงที่กำลังเร่าร้อน เขามีแนวโน้มที่จะผสมพันธุ์กับเธอแม้ว่าเขาจะทำหมันแล้วก็ตาม อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ การปฏิสนธิของไข่ของตัวเมียจะไม่เกิดขึ้น เนื่องจากแมวตัวผู้ที่ทำหมันไม่สามารถผลิตฮอร์โมนที่จำเป็นสำหรับสิ่งนี้ได้ การตัดอัณฑะแมวอาจไม่ใช่การรับประกันว่าแมวจะไม่ผสมพันธุ์อีก แต่เป็นการรับประกันว่าแมวที่ผสมพันธุ์กับแมวตัวผู้ทำหมันแล้วจะไม่ท้อง หากแมวของคุณสามารถออกไปถนนได้ สิ่งนี้จะสำคัญมากเพื่อไม่ให้จำนวนประชากรแมวที่ไม่มีบ้านเป็นของตัวเองเพิ่มขึ้น

แมวตัวผู้: ภาวะแทรกซ้อนทางสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นได้ ในองคชาติ?

มีหลายโรคที่สามารถทำลายระบบสืบพันธุ์เพศชายของแมวได้ ในบางตัว อวัยวะเพศของแมวอาจมีปฏิกิริยาที่แตกต่างจากปกติ ขึ้นอยู่กับผู้สอนที่จะต้องทราบพื้นที่และนำสัตว์ขนยาวไปหาสัตวแพทย์อย่างเร่งด่วนในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงในภูมิภาค การตรวจร่างกาย การตรวจทางห้องปฏิบัติการ อัลตราซาวนด์ และการคลำเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการวินิจฉัยที่ถูกต้องเพื่อการรักษาที่เหมาะสม โรคหลักๆ ที่สามารถทำลายอวัยวะเพศของแมวได้คือ:

• Fimosis : ปัญหานี้เกิดขึ้นเมื่อแมวไม่สามารถเอาอวัยวะเพศออกมาจากหนังหุ้มปลายได้ แม้ว่าสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากโครงสร้างของบริเวณนั้น ลูกแมวสามารถมีอาการทางร่างกายได้เนื่องจากภาวะแทรกซ้อนทางสุขภาพอื่นๆ ทางที่ดีควรนำแมวไปตรวจหากพบว่ามีการเลียมากเกินไป

จะรู้ได้อย่างไรว่าแมวเป็นตัวผู้หรือตัวเมีย

คุณรู้อยู่แล้วว่าจู๋ของแมวแทบจะไม่เคยถูกเปิดเผย และด้วยเหตุนี้คุณต้องคิดว่า: จะรู้ได้อย่างไรว่าแมวเป็นตัวผู้หรือตัวเมีย? หากต้องการระบุเพศของสัตว์ เพียงยกหางของสัตว์เลี้ยงเบาๆ เพื่อให้เห็นภาพทวารหนักและโครงสร้างในบริเวณนั้น แมวตัวผู้มีช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างทวารหนักและอวัยวะสืบพันธุ์ซึ่งแตกต่างจากตัวเมีย ในผู้หญิง จะสามารถมองเห็นช่องคลอดได้ใกล้กับทวารหนักมาก (มักมีรูปร่างเป็นร่อง) ในแมวตัวผู้ ช่องว่างจะใหญ่ขึ้นเนื่องจากลูกอัณฑะ นอกจากอวัยวะเพศของแมวแล้ว ระบบสืบพันธุ์เพศชายของแมวยังประกอบด้วย:

• อัณฑะ 2 ลูก;
• 2 วาสดีเฟอเรนส์;
• ต่อมลูกหมาก;<9
• 2 bulbourethral glands;
• scrotum;
• prepuce.