การเดินเล่นเป็นเวลาที่สุนัขมีความสุขที่สุด และสุนัขบางตัวก็รู้ว่าเวลาไหนที่พวกมันมักจะออกจากบ้าน อย่างไรก็ตาม ความยินดีนี้สามารถเปลี่ยนเป็นความวิตกกังวลและความปั่นป่วนได้ และปฏิกิริยาทั่วไปต่อพฤติกรรมนี้คือการดึงสายจูงและสายจูง การเดินจะต้องเพลิดเพลินสำหรับสุนัขและเจ้าของ! ครูสอนพิเศษหลายคนจบลงด้วยการไม่เดินไปตามถนนกับลูกสุนัขเพราะความยากลำบาก แต่ความจริงก็คือ สิ่งนี้ทำให้สถานการณ์แย่ลงและทำให้คุณวิตกกังวลมากยิ่งขึ้น การเดินทุกวันมีความสำคัญต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจของสุนัข นั่นคือเวลาที่พวกมันออกกำลังกาย มีปฏิสัมพันธ์กับสัตว์อื่นๆ ได้กลิ่นต่างๆ และสำรวจสถานที่ต่างๆ

เรียนรู้วิธีฝึกสุนัขของคุณและหยุดดึง!

การยุติการดึงเป็นขั้นตอนที่ต้องดำเนินการอย่างมาก ความอดทนและเทคนิคที่ถูกต้อง เราทราบดีว่าความหงุดหงิดของการขี่ด้วยการดึงนั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่การหยุดรถนั้นเป็นกระบวนการที่ต้องใช้ความทุ่มเท นั่นเป็นเหตุผลที่เราได้เตรียมเนื้อหาที่มี 6 เคล็ดลับในการฝึกสุนัขของคุณให้สงบขึ้นเมื่ออยู่ห่างจากบ้าน ก็พอแล้ว!

1 - เริ่มฝึกที่บ้าน

การฝึกสุนัขของคุณควรเกิดขึ้นในเวลาที่สงบ มันไม่มีประโยชน์ที่จะใส่ปลอกคอและสายจูงและต้องการให้เขากังวลน้อยลงในการเดิน การฝึกหลังจากที่คุณกลับมาจากถนนจะดีกว่ามากสำหรับคุณเนื่องจากลูกสุนัขจะเหนื่อยมากขึ้นและสิ่งนี้จะทำให้กระบวนการง่ายขึ้น เคล็ดลับในการดึงดูดความสนใจของสุนัขคือการให้อาหารเป็นเวลาฝึก: สำหรับการตีแต่ละครั้ง ให้กินทีละเม็ด

การฝึกที่บ้านทำได้ง่ายและไม่จำเป็นต้องใช้เวลานานกว่า 10 นาที วางสุนัขไว้ข้างๆ คุณโดยใช้สายจูงและสายจูงสั้นๆ แล้วเริ่มเดินไปรอบๆ ห้องสัก 2-3 ครั้ง เดินสองก้าว และถ้าเขาไม่ดึง ให้รางวัลด้วยอาหารเม็ดหรือขนม ทำซ้ำหลาย ๆ ครั้ง ไปที่ห้องอื่น ๆ ในบ้าน จนกว่าเขาจะสามารถเดินทางได้นานขึ้นด้วยสายจูงที่หลวม เมื่อการฝึกอบรมทำงานในอาคารแล้ว ให้ลองย้ายไปที่อื่น เช่น โถงทางเดินของอาคารหรือสวนหลังบ้าน ถ้าเขาหงุดหงิดและเริ่มดึง ให้กลับมา

2 - ปลอกคอและสายจูงสุนัข: เตรียมอุปกรณ์เสริมที่เหมาะสม

ประเภทของปลอกคอที่คุณใช้ในการเดินก็ส่งผลต่อการดึงได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น คอถูกระบุสำหรับสุนัขที่อ่อนแอกว่า สำหรับผู้ที่มีความแข็งแรงมากขึ้น ขอแนะนำให้ใช้ปลอกคอที่รัดสายจูงสุนัขไว้ด้านหน้า (หลีกเลี่ยงรุ่นที่มีหัวเข็มขัดด้านหลัง เพราะจะทำให้สุนัขควบคุมการเดินได้ดีกว่าคุณ) ด้วยสายรัดป้องกันการดึงนี้ คุณจะได้จัดการกับความหงุดหงิดของสุนัข: เมื่อเขาพยายามวิ่งหนี เขาจะถูกพาไปด้านข้างโดยอัตโนมัติและจะไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้

บางคนใช้วิธีผูกเชือกแขวนคอ (ซึ่งถือปากกระบอกปืนและเหมาะสำหรับสุนัขที่ก้าวร้าวมากขึ้น) และโซ่สำลัก แต่ระวัง! การใช้ทั้งสองอย่างนี้ระบุโดยผู้ที่มีประสบการณ์ในการเดินมากเท่านั้น เนื่องจากอาจทำร้ายสุนัขได้

3 - เหยียบสุนัขก่อนที่ เดิน

อีกทางเลือกหนึ่งในการทำให้ลูกสุนัขเดินช้าลงคือการเล่นให้มากๆ ก่อนออกไปข้างนอก โยนลูกบอล ให้เขาวิ่งไปรอบ ๆ บ้าน กระตุ้นให้เล่นเกม: อะไรก็ได้ที่จะทำให้เขากังวลน้อยลง เมื่อเหนื่อยมากขึ้น เขาก็จะกระวนกระวายน้อยลงและไม่ดึงสายจูง

4 - ทำให้สุนัขของคุณหงุดหงิดเมื่อเขาพยายามดึงสายจูง

เมื่อสุนัขของคุณเริ่มดึงสายจูง ให้หยุด ขี่ด้วยสายจูงติดกับร่างกายและอย่าก้าวไปอีกขั้น สิ่งที่ดีที่สุดคือไม่นานหลังจากที่สุนัขของคุณ "ตระหนัก" ว่าพฤติกรรมนั้นไม่ดีและคลายสายจูง ในตอนแรกคุณจะต้องทำซ้ำหลาย ๆ ครั้งจนกว่าจะได้ผล พยายามออกกำลังกายนี้ในสถานที่ที่มีผู้คนเคลื่อนไหวน้อยหรือในเวลาที่เงียบสงบ เช่น ช่วงหัวค่ำหรือช่วงดึก

เคล็ดลับอีกประการหนึ่งคือเพียงแค่หันหลังกลับและมุ่งหน้าไปยังทิศทางตรงกันข้าม เมื่อเวลาผ่านไป ความหงุดหงิดเล็กน้อยเหล่านี้จะทำให้สุนัขของคุณเข้าใจว่าทุกครั้งที่เขาดึง การเดินจะถูกขัดจังหวะ สิ่งสำคัญคือคุณต้องมีวิจารณญาณในระหว่างการออกกำลังกายเหล่านี้และอย่าให้รางวัลกับพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง

5 - ใช้ขนมและอื่นๆให้รางวัลเมื่อเขาเดินตรง

สุนัขชอบให้รางวัล และวิธีที่ถูกต้องคือสอนให้เขาเชื่อมโยงขนมและการกอดกับพฤติกรรมที่ดี เมื่อใดก็ตามที่เขาเดินเร็วขึ้นและปลดสายจูง ให้ชมเชยเขาเยอะๆ หรือให้ขนมอร่อยๆ คุณยังสามารถปล่อยให้มันดมเสาหรือ "ทักทาย" สุนัขตัวอื่นเมื่อเขาเดินโดยไม่ต้องดึง

6 - คอยควบคุมการเดิน

สุนัขของคุณจะต้องเข้าใจว่าเป็นคุณ ใครจะเป็นผู้นำทาง ด้วยความช่วยเหลือของขนม คุณสามารถสอนลูกสุนัขของคุณให้รู้จักความหมายของคำว่า “อยู่ด้วยกัน” ได้ เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาเดินเคียงข้างคุณโดยไม่ดึงรั้ง ให้ใช้คำสั่ง สิ่งที่ดีที่สุดคืออย่าพูดระหว่างดึง เพราะเขาอาจคิดว่าเขาทำถูกต้อง ทั้งที่จริงๆ แล้วเขาทำผิดทั้งหมด

เคล็ดลับพิเศษ: การฝึกฝนสามารถช่วยคุณได้มาก เพื่อนำเคล็ดลับเหล่านี้ไปปฏิบัติหากคุณไม่สามารถแก้ปัญหาได้ด้วยตัวเอง - ใช่ ลูกสุนัขบางตัวควบคุมได้ยากมาก มองหาผู้เชี่ยวชาญที่เชื่อถือได้และอธิบายสถานการณ์ ดังนั้นเขาจะกำหนดเทคนิคที่ดีที่สุดในการแก้ไขพฤติกรรม และอย่าลืมว่าลูกสุนัขของคุณยังไม่รู้ทุกอย่างและต้องการให้คุณสอนเขา มีความอดทนและความรักมากมาย!