โรคอ้วนในสุนัขเป็นภาวะร้ายแรงที่สามารถขัดขวางการเคลื่อนไหวและความเป็นอยู่ที่ดีของสัตว์ สุนัขที่อ้วนอาจมีสาเหตุหลายประการ: ความบกพร่องทางพันธุกรรม โรคที่เกี่ยวข้อง โภชนาการที่ไม่เพียงพอ การขาดการออกกำลังกาย และอื่น ๆ นอกจากนี้ โรคนี้ยังสามารถรบกวนระบบต่างๆ ในร่างกายของสุนัขและก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพอื่นๆ ได้ แต่จะแยกแยะสุนัขที่มีน้ำหนักในอุดมคติออกจากสุนัขอ้วนได้อย่างไร? เพื่อช่วยคุณ Patas da Casa ได้สร้างอินโฟกราฟิกที่แสดงระดับร่างกายของสุนัขและเวลาที่ควรกังวล ลองดูสิ!

จะระบุสุนัขอ้วนได้อย่างไร

ไม่ยากที่จะทราบได้ว่าสุนัขตัวนั้นผอมเกินไปหรือมีน้ำหนักเกิน โดยพื้นฐานแล้ว คุณต้องดูโครงสร้างร่างกายของเขาจากสองมุม: จากด้านบนและด้านข้าง ตัวอย่างเช่น สุนัขอ้วนจะมีชั้นไขมันหนามากที่หน้าอกและหน้าท้องซึ่งยาวไปถึงโคนหาง ในสัตว์ที่ขาดสารอาหารนั้น กระดูกของบริเวณอุ้งเชิงกราน ซี่โครง และหน้าท้องก็ชัดเจนดี ไม่มีไขมันเลย ดูลักษณะของน้ำหนักตัวแต่ละตัว:

ผอมมาก: ในกรณีของการขาดสารอาหาร โครงสร้างกระดูกทั้งหมดของสุนัขจะเห็นได้ชัดและสูง เห็นได้ชัดว่าไม่มีไขมันล้อมรอบกระดูก สัญญาณอื่นๆ ก็สังเกตเห็นได้เช่นกัน เช่น ตาโปน อ่อนแรง และลุกนั่งลำบากเคลื่อนไหวไปมา

น้ำหนักน้อย: ยังคงเป็นกรณีที่ได้รับความสนใจ สุนัขที่น้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์ยังมีซี่โครงและบริเวณท้องที่มองเห็นได้แม้จากระยะไกลและไม่มีไขมันที่สังเกตเห็นได้ ในบริเวณอุ้งเชิงกราน กระดูกจะเด่นชัดขึ้นในทางที่สำคัญน้อยกว่าสถานการณ์ก่อนหน้านี้

น้ำหนักในอุดมคติ: สุนัขที่แข็งแรงจะมีชีวิตชีวาและนิสัยเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ร่างกายของคุณจะผอม แต่ไม่มีกระดูกที่ชัดเจน และคุณจะรู้สึกถึงชั้นไขมันเบาบางเมื่อคุณสัมผัสมัน ช่วงเอวมีโครงร่างที่ชัดเจน

น้ำหนักเกิน: หากคุณรู้สึกว่ามีชั้นไขมันหนาขึ้นเมื่อสัมผัสสัตว์ ให้ตื่นตัว สุนัขที่มีน้ำหนักเกินจะยังคงมีซี่โครงที่มองเห็นได้ แต่เอวจะเสียรูปทรงไปมากกว่านี้

อ้วน: ในสุนัขที่อ้วน แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะแยกความแตกต่างระหว่างเอวและหน้าอก เนื่องจากมีไขมันที่เห็นได้ชัดจากทุกมุม อาการท้องอืดจะเห็นได้ชัดเจน สัตว์ต้องการการแทรกแซงอย่างเร่งด่วนเพื่อลดน้ำหนักและฟื้นรูปร่าง ในระดับนี้ เป็นไปได้แล้วที่เขาพัฒนาโรคที่เกิดจากโรคอ้วนในสุนัขและมีปัญหาในการเคลื่อนไหว

จะช่วยสุนัขอ้วนลดน้ำหนักได้อย่างไร

เนื่องจากเป็นโรคมาก ปัญหาร้ายแรงและอาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพอื่น ๆ โรคอ้วนในสุนัขจำเป็นต้องได้รับการรักษาทันที ซึ่งประกอบด้วยการเปลี่ยนแปลงรูปแบบโดยสิ้นเชิงของชีวิตสัตว์. ก่อนอื่น สิ่งสำคัญคือต้องพาสุนัขไปหาสัตว์แพทย์เพื่อตรวจสุขภาพทั่วไป จากนั้นจึงจะสามารถจัดทำแผนอาหารและการออกกำลังกายโดยเน้นไปที่สุนัขของคุณ: เป็นไปได้ว่าสัตว์จะต้องเปลี่ยนไปกินอาหารสุนัขอ้วนหรืออาหารเบาๆ

การออกกำลังกายก็เช่นกัน เข้าสู่กิจวัตรสัตว์เลี้ยง: การเดินกับสุนัขเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับสัตว์ทุกชนิด ในกรณีของสุนัขอ้วน การฝึกต้องเข้มข้นขึ้นด้วยการเดินนานขึ้นและหลายครั้งต่อวัน (ในกรณีนี้ การหาคนพาสุนัขไปเดินเล่นจะคุ้มค่ากว่าด้วยซ้ำ) ในบ้าน สิ่งที่มีประสิทธิภาพมากคือการเล่นกับสุนัขบ่อยขึ้นและไม่กระตุ้นให้เกิดโรค: ลงทุนในของเล่นและเกมเพื่อกระตุ้นให้สุนัขของคุณวิ่งและเดินไปมา