ความกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของแมวหมายถึงการสังเกตและทำความเข้าใจเมื่อแมวต้องการความช่วยเหลือ แม้กระทั่งเมื่อต้องรับมือกับโรคภัยเงียบ เช่น โรคลิชมาเนีย ตามที่สัตวแพทย์ Roberto dos Santos Teixeira อ้างอิงถึง leishmaniasis ในริโอเดจาเนโร เงื่อนไขนี้เกิดจากโปรโตซัวที่เรียกว่า Leishmania infantum และแพร่กระจายโดยการถูกยุงกัด Leishmaniasis เป็นที่ทราบกันอย่างแพร่หลายว่าส่งผลกระทบต่อสุนัขและมนุษย์ แต่ผู้สอนหลายคนสงสัยว่าแมวสามารถติดโรคนี้ได้หรือไม่ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม เราได้พูดคุยกับอายุรแพทย์ Roberto ซึ่งจะบอกทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับโรคลิชมาเนียในแมวด้านล่าง!

โรคลิชมาเนีย: แมวสามารถได้รับผลกระทบจากโรคนี้ได้หรือไม่

Ao ตรงกันข้ามกับ ความเชื่อที่แพร่หลาย โรคลิชมาเนียเป็นโรคที่สามารถส่งผลกระทบต่อทั้งสุนัขและแมว แม้ว่าอุบัติการณ์ในแมวจะต่ำกว่ามาก เนื่องจากมันเป็นโรคปรสิตที่ติดต่อทางยุง สัตวแพทย์อธิบายว่ามันเป็นไปได้ที่จะติดเชื้อในลักษณะเดียวกับสุนัข “ยุงกัดสัตว์ที่ติดเชื้อ และตั้งแต่วินาทีที่มันกัดสัตว์ตัวอื่น มันก็แพร่โรคไปสู่มัน” เขาอธิบาย

เช่นเดียวกับโรคลิชมาเนียในแมว ตัวเอง?

จากข้อมูลของ Roberto โรคลิชมาเนียในแมวอาจไม่แสดงอาการในบางกรณี กล่าวคือไม่แสดงอาการใดๆ ทำให้ยากต่อการการรับรู้ของโรค แต่เธอยังสามารถแสดงสัญญาณบางอย่าง ในหมู่พวกเขา ส่วนใหญ่ได้แก่:

• โลหิตจาง

• เลือดกำเดาไหล

• รอยโรคที่ผิวหนัง

• น้ำหนักลด

• รอยโรค ตา เช่น เยื่อบุตาอักเสบ

• แผล

เป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การกล่าวถึงว่า ไม่ว่าจะแสดงอาการใดก็ตาม จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปรึกษาสัตวแพทย์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้การวิเคราะห์โดยทั่วไปเกี่ยวกับสุขภาพของสัตว์สามารถ จะดำเนินการ เพียงเท่านี้คุณก็มั่นใจได้ว่าเพื่อนสี่ขาของคุณจะไม่ตกอยู่ในความเสี่ยง

การวินิจฉัยโรคลิชมาเนีย

เพื่อยืนยันว่าแมวมีโรคลิชมาเนียหรือไม่ สัตวแพทย์อาจขอให้มีการตรวจเลือดที่เจาะจงมากขึ้น จากข้อมูลของ Roberto เซรุ่มวิทยาเฉพาะทำหน้าที่ในการจับแอนติบอดีของสัตว์ ซึ่งเป็นสิ่งที่บ่งบอกได้อย่างแม่นยำว่ามีหรือไม่มีโรคในร่างกายของมัน การทดสอบเหล่านี้มีความจำเป็นเนื่องจากโรคลิชมาเนียในแมวมักไม่แสดงอาการที่ชัดเจน

การรักษาและการป้องกันโรคลิชมาเนียในแมว

วัคซีน โรคลิชมาเนีย และการรักษา น่าเสียดายที่เป็นคำที่ไม่ไปด้วยกัน เนื่องจากไม่มีวิธีรักษาโรคนี้ในแมว “มีวิธีการรักษาแบบประคับประคอง แต่ก็ยังไม่เพียงพอ” สัตวแพทย์ชี้แจง นั่นคือเป็นมาตรการที่ช่วยปรับปรุงคุณภาพชีวิตของแมวและสามารถยับยั้งการอาการทางคลินิกของโรค แต่จะไม่รักษา leishmaniasis เอง แมวยังคงเป็นพาหะของพยาธิสภาพและสามารถทำหน้าที่เป็นแหล่งที่มาของการปนเปื้อนสำหรับสัตว์อื่น ๆ

สำหรับการป้องกัน ก็ไม่มีอะไรให้ทำมากนักเช่นกัน ตามหลักการแล้ว แมวควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับยุงที่เป็นพาหะนำโรค อย่างไรก็ตาม ตามที่ Roberto อธิบาย ยาขับไล่ที่ใช้เพื่อป้องกันโรคลิชมาเนียไม่ได้ระบุไว้สำหรับแมว เนื่องจากผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีส่วนประกอบของสารที่เป็นพิษต่อแมว