ฟันของสุนัขมีความสำคัญต่อการพัฒนาของสุนัข ตลอดชีวิตของพวกมัน พวกมันใช้โครงสร้างนี้ในการให้อาหาร แทะ กัด หรือแม้แต่เล่น ดังนั้นการดูแลสุขภาพของสัตว์เลี้ยงจึงรวมถึงการดูแลช่องปากเพื่อป้องกันปัญหาต่างๆ เช่น คราบหินปูนในสุนัข แต่เงื่อนไขนี้เกี่ยวกับอะไร? จะระบุสุนัขที่มีคราบหินปูนได้อย่างไรและมีวิธีการรักษาอย่างไร? เพื่อชี้แจงข้อสงสัยหลักๆ ในเรื่องนี้ Patas da Casa ได้พูดคุยกับสัตวแพทย์ Mariana Lage-Marques ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านทันตกรรมจากมหาวิทยาลัยเซาเปาโล (USP) และทำงานที่ Pet Place Veterinary Center

ทาร์ทาร์ในสุนัข: มันคืออะไรและเกิดขึ้นได้อย่างไร

ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าทาร์ทาร์ในสุนัขเป็นผลมาจากการขาดการกำจัดคราบจุลินทรีย์ซึ่งเป็นการสะสมของแบคทีเรียบนพื้นผิว ของฟัน - หรือที่เรียกว่าไบโอฟิล์ม สิ่งนี้มักเกิดขึ้นเมื่อไม่มีการดูแลสุขภาพช่องปากของสัตว์เลี้ยง ทำให้สิ่งสกปรกยังคงสะสมอยู่ในฟัน ซึ่งต่อมาจะกลายเป็นคราบแบคทีเรียในช่วงระยะเวลาตั้งแต่ 24 ถึง 48 ชั่วโมง “แนะนำให้แปรงฟันทุกวันเพราะคราบจุลินทรีย์สามารถถอดออกได้ ด้วยแปรงทำให้สามารถขจัดคราบพลัคนี้ออกได้ ทำให้ไม่สามารถเกาะติดแน่นกับฟันได้มากขึ้น แต่จากช่วงเวลาที่จานเริ่มที่จะการยึดเกาะ มันกลายเป็นปูนและกลายเป็นสิ่งที่เราเรียกว่าหินปูนบนตัวสุนัขซึ่งเป็นชื่อของคนธรรมดา ในทางเทคนิคแล้ว สิ่งที่ถูกต้องคือแคลคูลัสทางทันตกรรม”

สาเหตุหลักของการเกิดหินปูนในสุนัขเกิดจากการขาดสุขอนามัยในช่องปาก ซึ่งเป็นวิธีปฏิบัติที่ช่วยกำจัดแผ่นแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของปัญหา . “ตาตาร์ก่อตัวขึ้นเมื่อคุณไม่แปรงฟันเท่านั้น” Mariana เผย

จะระบุสุนัขที่มีคราบหินปูนได้อย่างไร

การวิเคราะห์ปากของลูกสุนัขเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะรู้ว่าเขาเป็น ด้วยเคลือบฟันหรือไม่ ทันตแพทย์ระบุว่าสัญญาณทางคลินิกบางอย่างโดดเด่น เช่น ฟันมีสีคล้ำ มีกลิ่นปาก (หรือที่เรียกว่ากลิ่นปาก) และในบางกรณี อาการอาจมาพร้อมกับโรคเหงือกอักเสบ ซึ่งเป็นกระบวนการอักเสบของเหงือก “การไม่สามารถขจัดคราบหินปูนและคราบพลัคออกได้อาจทำให้เหงือกอักเสบได้ เนื่องจากบริเวณนี้มีหน้าที่หลักในการปกป้องปริทันต์ เหงือกที่อักเสบจะสูญเสียความสามารถในการปกป้องกระดูกและเอ็นของฟัน ด้วยเหตุนี้สุนัขจึงสามารถพัฒนาโรคปริทันต์อักเสบซึ่งเป็นกระบวนการอักเสบของกระดูกได้” เขาอธิบาย เลือดออกในกระพุ้งแก้มเป็นเรื่องปกติในกรณีเหล่านี้ ดังนั้นจึงควรตื่นตัวอยู่เสมอ อีกลักษณะหนึ่งของโรคปริทันต์อักเสบคือ เมื่อเวลาผ่านไป การอักเสบของกระดูกและเอ็นจะส่งผลให้ฟันหลวมและเสียหายได้ร่วง

วิธีทำความสะอาดคราบหินปูน: สิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับการรักษา

หลายคนสงสัยว่าจะขจัดคราบหินปูนในสุนัขได้อย่างไร เป็นสิ่งที่ง่ายและสามารถทำได้ที่บ้าน แต่มันไม่ใช่อย่างนั้น หากคุณมีสุนัขที่มีหินปูน จำเป็นต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญในเรื่องดังกล่าวเพื่อวิเคราะห์สถานการณ์: “สิ่งสำคัญคือการทำความสะอาดฟันของสุนัขจะต้องดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญด้านทันตแพทยศาสตร์เนื่องจากการรักษาไม่ได้ แค่เรื่องของการทำความสะอาด แต่เป็นการสืบสวนในสิ่งที่เราไม่สามารถจินตนาการได้” ด้วยวิธีนี้จะมีการประเมินสิ่งที่ซ่อนอยู่ใต้เหงือกด้วย “ฉันว่าฟันก็เหมือนภูเขาน้ำแข็ง เราเห็นด้านบนและด้านล่างเป็นตัวกำหนดสุขภาพของปริทันต์ เราใช้การถ่ายภาพรังสีในช่องปาก ซึ่งเป็นขั้นตอนที่มักทำโดยผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น”

แพทย์ยังชี้ให้เห็นว่ากระบวนการนี้ต้องใช้การดมยาสลบ: "จำเป็นต้องประเมินบริเวณใต้เหงือกและทำความสะอาดจุลินทรีย์ที่อาจแทรกซึมเข้าไปนอกเหงือกหรือใต้เหงือก ดังนั้นการทำความสะอาดนี้จำเป็นต้องทำอย่างสมบูรณ์ หากมีความจำเป็นต้องสกัด ผู้เชี่ยวชาญจะเป็นผู้พิจารณาสิ่งนี้ด้วย”

สุนัขที่มีคราบหินปูน: สุนัขทุกตัวเหมาะสำหรับการรักษานี้หรือไม่

เนื่องจากเป็นหินปูนขั้นตอนที่ต้องดมยาสลบ ผู้สอนหลายคนรู้สึกไม่ปลอดภัยและสงสัยว่าลูกสุนัขของตนเหมาะสมที่จะรับการรักษาปริทันต์หรือไม่ เกี่ยวกับข้อสงสัยนี้ Mariana ชี้แจงว่า: “สุนัขทุกตัวสามารถได้รับการทำความสะอาดคราบหินปูนได้ตราบเท่าที่พวกมันได้รับการตรวจทางการแพทย์ ไม่มีผู้ป่วยรายใดที่สามารถเข้ารับการผ่าตัดโดยไม่ผ่านการประเมิน ดังนั้นจึงแนะนำให้ทำการตรวจทางคลินิกของสัตว์โดยรวม - หัวใจ ตับ ไต - และควรทำการตรวจร่างกายก่อนการผ่าตัดเพื่อตรวจหา หากมีโรคร่วมหรือโรคร่วมอื่น ๆ ที่ป้องกันหรือเพิ่มความเสี่ยงในการดมยาสลบในระหว่างขั้นตอนนี้”

ตาตาร์: สุนัขที่ไม่ได้รับการรักษาสามารถพัฒนาปัญหาอื่นๆ ได้

ตาตาร์ในสุนัขสามารถพัฒนาไปสู่สภาวะที่ร้ายแรงกว่าได้ เช่น โรคเหงือกอักเสบและโรคปริทันต์อักเสบ แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ปัญหาเพียงอย่างเดียว “เมื่อเหงือกอักเสบเกิดขึ้น มันจะกลายเป็นประตูสู่จุลินทรีย์ต่างๆ พวกมันมักจะหลุดเข้าสู่กระแสเลือด และด้วยเหตุนี้จึงเกิดการแพร่กระจายของจุลินทรีย์ไปสู่ระบบทั่วไป และอาจย้ายไปยังอวัยวะที่เคยอักเสบหรือมีปัญหาอยู่แล้ว เช่น หัวใจ ไต กระดูกสันหลัง ตับ เป็นต้น” เขากล่าวเสริม ด้วยเหตุผลนี้ ความตั้งใจคือไม่อนุญาตให้มีการสะสมของหินปูนในสุนัข เพื่อไม่ให้เกิดโรคเหงือกอักเสบ และเป็นผลให้ไม่มีการแพร่กระจายหรือการเคลื่อนย้ายของจุลินทรีย์เข้าสู่ร่างกายสัตว์ “เมื่อเวลาผ่านไป การสูญเสียกระดูกเกิดขึ้นและผู้ป่วยจะสูญเสียฟัน นอกจากจะเป็นกระบวนการติดเชื้อเรื้อรังแล้ว ยังเป็นความรู้สึกไม่สบายที่ต้องได้รับการแก้ไขด้วย” มาเรียนาสรุป

เป็นไปได้ไหมที่จะป้องกันหินปูนในสุนัข? ดูเคล็ดลับ!

ใช่ เป็นไปได้โดยสิ้นเชิงที่จะป้องกันคราบหินปูนในสุนัข ตราบใดที่เจ้าของดูแลสุขภาพช่องปากของเพื่อนสี่ขาของเขา นอกจากการแปรงฟันซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาปัญหาแล้ว ทันตแพทย์มาเรียนากล่าวว่ายังมีสารเสริมและผลิตภัณฑ์ที่สามารถนำมาใช้ได้ และยังมีของเล่นบางอย่างที่สามารถช่วยขจัดคราบจุลินทรีย์ออกจากฟันของสุนัขได้ ตัวอย่างคือยางกัดสำหรับสุนัข ซึ่งเหมาะสำหรับ "ทำความสะอาด" รอยยิ้มของสัตว์ในขณะที่มันกำลังสนุกสนาน อย่างไรก็ตาม คำเตือน: "ผู้สอนควรหลีกเลี่ยงกระดูกธรรมชาติและของเล่นไนลอน เพราะสิ่งเหล่านี้จะเพิ่มอุบัติการณ์ของฟันหักได้ไม่จำกัด"

เกี่ยวกับการแปรงฟันสุนัข ผู้เชี่ยวชาญชี้ให้เห็นว่านี่เป็นกิจกรรมที่น่าพึงพอใจสำหรับทั้งสุนัขและเจ้าของ ดังนั้นจึงควรให้รางวัลและให้ขนมกับสัตว์เพื่อเชื่อมโยงช่วงเวลานั้นกับสิ่งที่เป็นบวก สำหรับสุนัขที่ไม่ค่อยชินกับการแปรงขนหรือลูกสุนัขที่เพิ่งเปลี่ยนฟัน นี่คือคำแนะนำจาก Mariana: “คุณสามารถเริ่มด้วยการแปรงฟันสุนัขด้วยผ้าก๊อซพันรอบนิ้วของคุณ และนวดเหงือกและฟัน จากนั้นแทนที่ด้วยแปรงสีฟันและยาสีฟันของสัตวแพทย์ (ไม่ใช่โฟลเดอร์ของมนุษย์ สามารถใช้ได้). การแปรงฟันนี้ควรเกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปและด้วยความรักเสมอ”. ดูวิธีการแปรงฟันสุนัขทีละขั้นตอน:

1) ใช้เวลาที่สุนัขรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นเพื่อเริ่มกระบวนการแปรงฟันอย่างค่อยเป็นค่อยไป (โดยไม่ต้องเร่งรีบและใช้ความอดทนอย่างมาก ).

2) ยิ่งสุนัขรู้สึกสบายตัวมากขึ้นเมื่อถูกสัมผัสใกล้กับบริเวณปากกระบอกปืน ยิ่งดี จากนั้นเริ่มลูบหัวสัตว์เลี้ยง ด้านนอกปาก และด้านในสุด

3) นวดเหงือกด้วยนิ้ว จากนั้นใช้ผ้าก็อซ จากนั้นใช้แปรงกับยาสีฟันสุนัข

4) เริ่มแปรงฟันเป็นวงกลมแล้วเคลื่อนแปรงจากเหงือกไปยังปลายฟัน

5) หากคุณสังเกตเห็นว่าสุนัขรู้สึกสบายใจกับสถานการณ์ ให้ลองแปรงฟันที่ด้านข้างของลิ้น พร้อม!