คุณต้องเคยเห็นแมวที่มีตาข้างละสีอยู่รอบๆ ใช่ไหม! ลักษณะนี้เรียกว่า เฮเทอโรโครเมีย เป็นภาวะทางพันธุกรรมที่สามารถเกิดขึ้นได้ในลูกแมว สุนัข และมนุษย์ แต่คุณรู้หรือไม่ว่าในบางกรณีเสน่ห์ในดวงตาของแมวอาจทำให้เกิดปัญหากับสุขภาพของแมวได้? เราได้พูดคุยกับสัตวแพทย์ Amanda Carloni ผู้ซึ่งสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทด้านเวชศาสตร์คลินิกสำหรับสุนัขและแมว และเชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ป้องกันสัตว์ เธออธิบายทุกอย่างเกี่ยวกับแมวที่มีเฮเทอโรโครเมีย!

แมวที่มีเฮเทอโรโครเมีย: เกิดขึ้นได้อย่างไร

หรือที่เรียกว่า "แมวตาคี่" ปรากฏการณ์ของเฮเทอโรโครเมียคือการเปลี่ยนสี ของม่านตา - สามารถเกิดขึ้นได้กับดวงตาทั้งสองข้างหรือข้างเดียว เฮเทอโรโครเมียในแมวมีหลายประเภท ตามที่สัตวแพทย์ Amanda อธิบาย: “อาจเป็นแบบสมบูรณ์ (ตาแต่ละข้างมีสีต่างกัน) บางส่วน (สองสีต่างกันในตาเดียวกัน) หรือส่วนกลาง (เป็น “วงแหวน” ของสีต่างกัน) สีล้อมรอบรูม่านตา )”. ในกรณีส่วนใหญ่ ภาวะนี้เกิดจากกรรมพันธุ์และถ่ายทอดทางพันธุกรรม และไม่ควรทำให้ผู้สอนแปลกใจหรือกังวลใดๆ เนื่องจากลูกแมวจะไม่รู้สึกไม่สบายหรือไม่สบายใดๆ

“แมวที่มีพันธุกรรมเฮเทอโรโครเมียที่สืบทอดมาจากคุณ ตระกูลยีนที่รับผิดชอบในการลดปริมาณของเมลาโนไซต์ (เซลล์ที่ผลิตเมลานิน) ดังนั้นปกติจึงมีตาสีฟ้า ผิวขาว และขาวหรือมีจุดสีขาว” ผู้เชี่ยวชาญชี้แจง อย่างไรก็ตาม เธอกล่าวว่าเฮเทอโรโครเมียในแมวยังสามารถพัฒนาได้เนื่องจากอุบัติเหตุหรือพยาธิสภาพ: "ในกรณีนี้ แมวจะมีสีที่ต่างออกไปในดวงตาเนื่องจากมีแผลเป็นที่ทำให้ตาเป็นสีขาว สีฟ้า หรือมีจุด" , เขาพูดว่า. ไม่ว่าในกรณีใด จำเป็นต้องสังเกตและดูแลแมวโดยเฉพาะแมวตาสีฟ้า

แมวที่มีเฮเทอโรโครเมีย: สภาพอาจทำให้เกิดปัญหาได้ ในแมว

ในกรณีส่วนใหญ่ เฮเทอโรโครเมียจะไม่ก่อให้เกิดปัญหาใดๆ กับสัตว์ แต่มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดโรคที่อาจเกี่ยวข้องกับพันธุกรรมและสายพันธุ์ของแมว ” ในกรณีทางพันธุกรรม นี่เป็นเพียงลักษณะเฉพาะของแมว ดังนั้นจึงไม่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในหน้าที่หรือความรู้สึกไม่สบายในดวงตาที่ได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ได้รับ heterochromia มักจะเป็นสัญญาณทางคลินิกของพยาธิสภาพบางอย่าง และสิ่งสำคัญคือต้องขอความช่วยเหลือจากสัตวแพทย์เพื่อช่วยแมว” สัตวแพทย์อธิบาย

หากคุณสังเกตว่าสีตาของแมวเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน จำเป็นต้องไปหาสัตวแพทย์เพื่อวินิจฉัยว่าไม่ได้มีปัญหาที่เกี่ยวข้อง ตามที่สัตวแพทย์ระบุว่า ในกรณีของสีตาที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน แมวอาจเผชิญกับโรคตาหลายอย่าง เช่น การบาดเจ็บและแม้กระทั่งเนื้องอก กสัตวแพทย์ยังชี้ให้เห็นว่าแมวบางสายพันธุ์อาจมีแนวโน้มที่จะเกิดโรคเฮเทอโรโครเมียในแมว “อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่าสายพันธุ์เพียงอย่างเดียวไม่ได้กำหนดว่าแมวจะมีภาวะ heterochromia หรือไม่ เพื่อให้สิ่งนี้เกิดขึ้น แมวต้องมียีนที่ทำหน้าที่ในการลดจำนวนของเมลาโนไซต์” เขาอธิบาย ในบรรดาสายพันธุ์เหล่านี้ได้แก่:

• แองโกร่า;

• เปอร์เซีย;

• หางสั้นญี่ปุ่น;

• เตอร์กิช แวน;

• สยาม;

• พม่า;

• อะบิสซิเนียน

แมวขาวตาสีฟ้าอาจทำให้หูหนวกได้!

ในกรณีของแมวสีขาว ตาสีฟ้าสามารถบ่งบอกถึงอาการหูหนวกได้ ลักษณะนี้เรียกว่าพันธุกรรม “เราไม่สามารถพูดได้ว่าแมวสีขาวตาสีฟ้าจะหูหนวกเสมอไป เพราะชีววิทยาไม่ใช่วิทยาศาสตร์ที่แน่นอน! แต่ใช่แมวเหล่านี้มีอัตราการเกิดหูหนวกสูงกว่า นี่เป็นเพราะยีนที่รับผิดชอบในการลดจำนวนของ melanocytes มักจะทำให้เกิดความบกพร่องทางการได้ยิน” สัตวแพทย์ Amanda อธิบาย

สภาวะของเฮเทอโรโครเมียพบได้บ่อยในแมวบางสายพันธุ์ ซึ่งมักจะมีขนสีอ่อนและตาสีฟ้า นี่คือกรณีของแมวสยาม แมวพม่า แมวอะบิสซิเนียน และแมวเปอร์เซีย นอกจากนี้ยังสามารถเกิดขึ้นได้เมื่อแมวมีตาสีฟ้าข้างเดียว “เมื่อแมวยังเป็นลูกแมว เซลล์บางส่วนในดวงตาของมันสามารถเปลี่ยนเป็นเมลาโนไซต์ได้เพิ่มการผลิตเมลานิน หากสิ่งนี้เกิดขึ้นกับตาเพียงข้างเดียว ตาข้างนี้จะเข้มขึ้น ในขณะที่อีกข้างจะยังคงเป็นสีน้ำเงิน” เขากล่าวเสริม ในกรณีนั้น ภาวะหูหนวกอาจปรากฏเฉพาะข้างที่ตาสว่างเท่านั้น