หนึ่งในความกลัวหลักของผู้ที่มีสัตว์เลี้ยงที่บ้านคือ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าสัตว์เลี้ยงจะป่วยและการรักษาจะซับซ้อนเพียงใด (โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็น FIV และ FeLV) สำหรับคนเลี้ยงแมว FIV (โรคภูมิคุ้มกันบกพร่องในแมว) หรือที่เรียกว่า Feline AIDS และ FeLV (มะเร็งเม็ดเลือดขาวในแมว) เป็นสิ่งที่น่ากังวลเป็นพิเศษ เนื่องจากมีผลกระทบร้ายแรงและอาจถึงแก่ชีวิตได้

ข้อแตกต่างที่สำคัญระหว่าง FIV และ FeLV FIV นั้นถูกส่งผ่านสารคัดหลั่งในระหว่างที่แมวต่อสู้กัน FeLV แพร่กระจายโดยการสัมผัสโดยตรงหรือโดยอ้อมระหว่างแมวที่มีสุขภาพดีและแมวที่ป่วย นั่นคือการแลกเปลี่ยนน้ำลายหรือแบ่งปันสิ่งของ (อาหาร ของเล่น ฯลฯ) ก็เพียงพอสำหรับการแพร่เชื้อ โรคเหล่านี้เป็นโรคร้ายแรงสองโรค และระยะเวลาการอยู่รอดของสัตว์จะขึ้นอยู่กับระยะของโรค โดยทั่วไปแล้ว แมวที่มี FIV จะมีชีวิตยืนยาวกว่าแมวที่มี FeLV เนื่องจากมะเร็งเม็ดเลือดขาวทำให้ผู้ป่วยอ่อนแอลงได้เร็วกว่า

เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับ FIV และ FeLV - อาการ การดูแล และการรักษาสำหรับแต่ละรายการในแมวที่ติดเชื้อ - เราได้พูดคุยกับแพทย์สัตวแพทย์ Gabriela Teixeira เธออธิบายทุกอย่างที่นี่และบอกคุณอย่างชัดเจนว่า IVF และ FeLV คืออะไร ลองดูสิ!

Paws of the House: การแพร่เชื้อ FIV (โรคเอดส์แมว) ในแมวเป็นอย่างไร

Gabriela Teixeira: FIV พบได้บ่อยใน แมวแมวตัวผู้ที่เข้าถึงถนนได้ เราเคยเรียกว่าโรคแมวต่อสู้ ไวรัสแพร่กระจายผ่านทางน้ำลายและมักจะส่งต่อไปยังผู้อื่นผ่านบาดแผลที่ถูกกัดระหว่างการสู้แมว

PDC: อาการหลักของ FIV (โรคเอดส์ในแมว) คืออะไร

GT : แมวที่มีเชื้อ FIV อาจใช้เวลาเป็นเดือนหรือเป็นปีในการแสดงอาการ ด้วยเหตุนี้หลายคนจึงสามารถมีชีวิตที่ยืนยาวและมีสุขภาพที่ดี แมวที่เพิ่งติดเชื้อบางตัวอาจมีอาการไม่รุนแรง เช่น มีไข้หรือเบื่ออาหาร แต่เจ้าของส่วนใหญ่ไม่สังเกตอาการนี้เพราะมันคงอยู่ไม่กี่วัน

เมื่อเชื้อเริ่มทำงาน แมวจะแสดงอาการป่วยและ ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง ทำให้คุณเสี่ยงต่อการติดเชื้อต่างๆ ดังนั้นจึงเป็นการยากที่จะพูดได้อย่างชัดเจนว่าสัตว์จะแสดงอาการใด เป็นโรคที่มีความหลากหลายมาก

แมวส่วนใหญ่มีอาการน้ำหนักลด โลหิตจาง ไม่แยแส ปากอักเสบ มีปัญหาระบบทางเดินหายใจ และเบื่ออาหาร อาการเหล่านี้พบได้บ่อยในหลายๆ โรค ในระยะสุดท้าย จะพบภาวะไตวาย มะเร็งต่อมน้ำเหลือง และโรคคริปโตคอคโคซิส

PDC: FeLV (มะเร็งเม็ดเลือดขาวในแมว) ทำงานอย่างไรระหว่างแมว

GT: เรามักเรียก FeLV ว่าโรคแมวเพื่อน เนื่องจากมักติดต่อระหว่างสัตว์ที่อาศัยอยู่ด้วยกัน การแพร่เชื้อส่วนใหญ่ทำผ่านทางน้ำลาย ผ่านการเลียของแมวตัวอื่นหรือเมื่อใช้ชามอาหารและน้ำร่วมกัน

PDC: อาการหลักของ FeLV (มะเร็งเม็ดเลือดขาวในแมว) คืออะไร

GT: จำเป็นต้องเน้นว่า ไม่มีอาการ FIV และ FeLV ที่มีลักษณะเฉพาะมากนัก พวกเขาเป็นโรคที่มีความหลากหลายมากและสามารถนำเสนอตัวเองในรูปแบบต่างๆ เช่นเดียวกับ FIV FeLV มีอาการแสดงทั่วไป และแมวส่วนใหญ่มีน้ำหนักลด โลหิตจาง ไม่แยแส ปากอักเสบ มีปัญหาระบบทางเดินหายใจ และเบื่ออาหาร ซึ่งเป็นอาการที่พบได้บ่อยจากโรคต่างๆ

เมื่อสัมผัสกับ FeLV FeLV เป็นครั้งแรก a แมวอาจไม่แสดงอาการของโรค แมวบางตัวสามารถกำจัดไวรัสออกจากร่างกายได้อย่างสมบูรณ์ และบางตัวสามารถควบคุมการติดเชื้อได้ ป้องกันไม่ให้อาการแย่ลง ในแมวบางตัว การติดเชื้อจะเริ่มทำงานในร่างกายและทำให้เกิดปัญหาร้ายแรงและถึงขั้นเสียชีวิตได้ เช่น ความผิดปกติทางโลหิตวิทยาและมะเร็งต่อมน้ำเหลือง

รูปภาพของแมวที่มี FIV และ FeLV

PDC: มีการป้องกันรูปแบบใดสำหรับ FIV (โรคเอดส์ในแมว) และ FeLV (มะเร็งเม็ดเลือดขาวในแมว)

GT : ในบราซิล มีวัคซีนป้องกัน FeLV แต่ไม่มีวัคซีนป้องกัน FIV ในการดำเนินการฉีดวัคซีนแมวจำเป็นต้องทำการทดสอบอย่างรวดเร็วในสำนักงานสัตวแพทย์เพื่อให้แน่ใจว่าสัตว์ไม่มีไวรัส เพื่อไม่ให้ปริมาณไวรัสของสัตว์เพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องไม่มีอีกต่อไปความคิดที่ว่าแมวต้องเดิน แมวที่มีสุขภาพดีและมีความสุขไม่ต้องการและไม่ควรเข้าถึงถนน การรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมอย่างรับผิดชอบเกี่ยวข้องกับการติดมุ้งลวดเพื่อป้องกันทางออกและส่งเสริมการเล่นที่บ้าน หากเราจะรับเลี้ยงสัตว์ตัวใหม่ จำเป็นต้องทดสอบสัตว์ก่อนนำสัตว์ตัวอื่นมาเลี้ยงเพื่อรักษาสุขภาพของทุกคน

PDC: การทดสอบเพื่อตรวจหา FIV และ FeLV ดำเนินการอย่างไร

GT : การทดสอบอย่างรวดเร็วคือสิ่งที่เราทำมากที่สุดในกิจวัตรทางคลินิก ตรวจจับแอนติบอดี FIV และแอนติเจน Felv ต้องการเพียงตัวอย่างเลือดเล็กน้อยเพื่อให้ได้ผลภายใน 10 นาทีในสำนักงาน โดยไม่จำเป็นต้องส่งไปที่ห้องปฏิบัติการ มีความแม่นยำและความไวที่ดี แต่การยืนยันสามารถทำได้ด้วย PCR

PDC: การรักษา FIV และ FeLV ทำงานอย่างไร? มีทางรักษาที่แน่นอนสำหรับโรคเหล่านี้หรือไม่?

GT : ไม่มีการรักษาที่ถูกต้องหรือการรักษาขั้นสุดท้ายสำหรับโรคใดโรคหนึ่ง ควรพาแมวที่ติดเชื้อไปหาสัตว์แพทย์เพื่อตรวจร่างกายเป็นประจำเพื่อดูว่าแมวรับมือกับโรคอย่างไร เพราะจะช่วยให้แมวมีชีวิตยืนยาวและมีสุขภาพที่ดี ใน FIV และ FeLV การดูแลแบบประคับประคองจะได้รับเพื่อบรรเทาอาการและควรได้รับการประเมินเป็นกรณีไป สิ่งสำคัญคือต้องเน้นว่าความเครียดสามารถมีบทบาทสำคัญในกระตุ้นการเปิดใช้งานของไวรัสในสัตว์ที่มีสุขภาพดีแม้ว่าจะเป็นโรคก็ตาม