มีสุนัขหลายสายพันธุ์ที่มีหูใหญ่และบางสายพันธุ์ที่มีหูเล็ก นอกจากนี้ยังมีสุนัขสายพันธุ์หนึ่งที่มีหูแหลมและตั้งตรงในขณะที่บางตัวมีหูตก ความจริงก็คือประเภทของหูสุนัขนั้นแตกต่างกันอย่างมากตามแต่ละสายพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นขนาด รูปร่าง หรือตำแหน่งก็ตาม การรู้ว่าสุนัขของคุณมีหูประเภทใดจะช่วยให้คุณเข้าใจวิธีดูแลพวกเขาได้ดีที่สุด ท้ายที่สุดแล้ว บางประเภทจำเป็นต้องทำความสะอาดบ่อยกว่าประเภทอื่นๆ อุ้งเท้าของบ้าน แสดงทุกอย่างเกี่ยวกับประเภทของหูสุนัข เพื่อให้คุณสามารถระบุหูสุนัขของคุณได้ นอกจากนี้ เรายังอธิบายวิธีทำความสะอาดหูของสุนัขและผลกระทบต่อรูปร่างของมันต่อการได้ยินของสุนัขอย่างไร ลองดูสิ!

หูใหญ่หรือเล็ก: หูสุนัขแบ่งตามขนาดได้

คุณอาจสังเกตเห็นแล้วว่ามีบางสายพันธุ์ที่หูตั้งขึ้นและบางสายพันธุ์ที่เกือบจะลากพวกเขาไปที่พื้นเพราะพวกมันล้มลง ความแข็งของหูของสุนัขเป็นอีกวิธีหนึ่งในการจำแนกส่วนของร่างกายนี้ จะหูใหญ่หรือเล็ก

สุนัขหูแข็ง: หูสุนัขประเภทนี้เป็นลักษณะทั่วไปของสุนัขที่ตื่นตัวมากกว่า หูของสุนัขที่แข็ง (หรือตั้งตรง) ช่วยให้การได้ยินขยายออกไปมากขึ้น นอกเหนือจากการเอื้อต่อการแข่งขันแล้ว ดังนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับน้องหมานั่นเองชอบเคลื่อนไหวกลางแจ้งอยู่เสมอ หูสุนัขประเภทนี้มักเกี่ยวข้องกับตัวอย่างสายพันธุ์สุนัขที่มีหูแหลม ในบรรดาสุนัขที่มีหูตั้งตรง เราสามารถเน้นพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ด พินเชอร์ ไซบีเรียน ฮัสกี้ และยอร์คเชียร์

หูของสุนัขกึ่งตั้งตรง: สุนัขประเภทอื่นๆ จะมีหูตั้งขึ้น แต่ที่ปลายหูจะพับ ในกรณีนี้เรียกว่าหูสุนัขกึ่งตั้งตรง มักจะเป็นสุนัขที่มีหูแหลม และหูพับอาจเกิดขึ้นเพียงส่วนปลายหรือเกือบทั้งหูก็ได้ ตัวอย่างของสายพันธุ์ที่มีสุนัขหูกึ่งตั้งตรง ได้แก่ คอลลี่ ฟ็อกซ์เทอร์เรียร์ พิทบูล และบูลด็อก

หูสุนัขฟลอปปี้: นี่คือหูสุนัขประเภทหนึ่งที่ดึงดูดความสนใจได้มาก โดยเฉพาะในกรณีที่หูใหญ่และหย่อนยาน รูปทรงหูของสุนัขนี้จะลาดลงและเป็นลักษณะทั่วไปในสายพันธุ์สุนัขส่วนใหญ่ที่เลี้ยงในบ้าน ซึ่งแตกต่างจากหูแข็งของสุนัข สายพันธุ์ที่มีหูตกมีแนวโน้มที่จะมีความบกพร่องทางการได้ยิน เนื่องจากหูจะอุดหู และเป็นผลให้จับเสียงได้ สุนัขบางตัวที่มีหูห้อย ได้แก่ บาสเซ็ตฮาวด์ ดัชชุน บีเกิล และค็อกเกอร์สแปเนียล

สุนัขที่มีหูแหลม สามเหลี่ยม หรือกลม: สุนัขแต่ละตัวมีหูรูปร่างต่างกัน

อื่นๆการจำแนกประเภทหูของสุนัขขึ้นอยู่กับรูปร่างของมัน มีสุนัขสายพันธุ์หนึ่งที่มีหูแหลมรูปสามเหลี่ยมหรือกลม สามารถอยู่ในหูใหญ่หรือเล็กและเป็นลักษณะเด่นของแต่ละสายพันธุ์

สุนัขที่มีหูแหลม: ประเภทของสายพันธุ์สุนัขที่มีหูแหลมตามที่เราอธิบาย คือสุนัขที่มีหูแข็งและดูเหมือนจะตื่นตัวอยู่เสมอ พวกเขามีรูปร่างแหลมที่ให้ความรู้สึกตื่นตัวและเคลื่อนไหวได้ ตัวอย่างของสายพันธุ์สุนัขที่มีหูแหลม เช่น ไซบีเรียน ฮัสกี้ เยอรมัน เชพเพิร์ด ชิวาว่า และเวสต์ ไฮแลนด์ เทอร์เรียร์

หูสุนัขทรงสามเหลี่ยม: หูสุนัขประเภทนี้ไม่มีอะไรมากไปกว่ารูปทรงที่คล้ายสามเหลี่ยม มีปลายที่บางกว่าและฐานที่กว้างกว่า ตัวอย่างของสุนัขหูสามเหลี่ยม ได้แก่ ลาบราดอร์และชิบะอินุ

หูสุนัขแบบโค้งมน: หูสุนัขประเภทนี้จะมีปลายมน มันสามารถเกิดขึ้นได้ในหูใหญ่หรือหูเล็ก ตัวอย่างของสุนัขหูกลมสามารถพบเห็นได้ในสุนัขสายพันธุ์ค็อกเกอร์ สแปเนียล บีเกิ้ล และสกาย เทอร์เรียร์

หูสุนัขประเภทต่างๆ มีผลต่อการได้ยินของสัตว์

สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่าการได้ยินของสุนัขนั้นขยายได้มากกว่าการได้ยินของมนุษย์ สุนัขสามารถจับได้15 ถึง 40,000 Hz - สองเท่าของมนุษย์ ดังนั้น เสียงดังมาก เช่น ดอกไม้ไฟ ทำให้พวกเขารู้สึกอึดอัดมาก เนื่องจากเสียงจะยิ่งทำให้พวกเขารู้สึกแย่ แต่คุณรู้หรือไม่ว่ารูปร่างของหูของสุนัขนั้นส่งผลต่อการได้ยิน? ดังที่เราได้อธิบายไปแล้ว สุนัขที่มีหูแหลมหรือตั้งตรงมีความสามารถในการได้ยินที่มากกว่า หูของคุณสัมผัสกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ดังนั้นการได้ยินจึงมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลักษณะนี้เกี่ยวข้องกับบรรพบุรุษที่ต้องการการได้ยินเป็นพิเศษในการล่าสัตว์

หูของสุนัขที่หลบตามีความบกพร่องทางการได้ยิน เนื่องจากช่องหูถูกปิดด้วยหูไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ เชื่อกันว่าเมื่อเวลาผ่านไปและการเลี้ยงดู สุนัขไม่จำเป็นต้องยกหูขึ้นเพื่อป้องกันอีกต่อไป ซึ่งทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นอ่อนแอลง ทำให้หูตก เป็นผลให้การได้ยินกลายเป็นอู้อี้และจับเสียงได้น้อยลง ตัวอย่างเช่น คนเลี้ยงแกะเยอรมันสามารถจับเสียงที่มีความเข้มมากกว่า Basset Hound แต่เพื่อชดเชย สายพันธุ์ที่มีสุนัขหูหลบตามักจะมีประสาทรับกลิ่นที่สูงมาก เช่นในกรณีของ Basset Hound ซึ่งใช้หูที่ใหญ่และยาวลากโมเลกุลที่อยู่บนพื้น ปรับปรุง ดักจับกลิ่นจากสิ่งแวดล้อม

วิธีทำความสะอาดหูของสุนัข: การรักษาความสะอาดอยู่เสมอเป็นสิ่งสำคัญเพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อ

ไม่ว่าหูของสุนัขจะเป็นประเภทใดก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องรักษาความสะอาดและดูแลอย่างดีอยู่เสมอ การขาดการทำความสะอาดอาจทำให้เกิดการเพิ่มจำนวนของเชื้อราและแบคทีเรีย นอกเหนือจากจุลินทรีย์อื่นๆ ในบรรดาโรคที่พบบ่อยที่สุดที่ส่งผลต่อหูของสุนัข ได้แก่ โรคหูน้ำหนวกและโรคเรื้อนในสุนัข เคล็ดลับแรกในการทำความสะอาดหูของสุนัขคือการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม เมื่อใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดหูสุนัข สิ่งสกปรกที่อยู่ในหูจะถูกกำจัดออกไป ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการหลีกเลี่ยงการติดเชื้อที่บริเวณนั้น

สิ่งที่คุณต้องทำก็เพียงแค่ใช้ผลิตภัณฑ์กับสำลีแผ่น - โดยไม่ต้องใช้ปริมาณมากเกินไป แค่พอให้ชุ่ม - จากนั้นจึงนำไปใช้กับหูชั้นนอกของสัตว์ ไม่จำเป็นต้องทำความสะอาดภายในหูของสุนัขมากนัก หากคุณติดสำลีกับผลิตภัณฑ์ในบริเวณที่ลึกมาก สัตว์เลี้ยงอาจได้รับบาดเจ็บ สุดท้าย สิ่งสำคัญคือต้องทำให้บริเวณนั้นแห้งสนิท หากหูของสุนัขเปียกหรือชื้น โอกาสในการติดเชื้อก็จะยิ่งมากขึ้นไปอีก

ความถี่ที่ควรทำความสะอาดหูของสุนัขจะแตกต่างกันไปตามแต่ละประเภท

ตอนนี้คุณรู้วิธีทำความสะอาดหูของสุนัขแล้ว คุณต้องสร้างกิจวัตรการทำความสะอาด ความถี่ในการทำความสะอาดแตกต่างกันไปตามประเภทของหูของสุนัข สำหรับสุนัขที่มีหูห้อยควรทำอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง ภูมิภาคเป็นอย่างไรซ่อนไว้ตามขนาดของหูและปริมาณของขน ภูมิภาคสามารถอู้อี้มาก ดังนั้นครูควรหมั่นตรวจดูหูสุนัขให้สะอาดอยู่เสมอ ในทางกลับกัน สุนัขสายพันธุ์ที่มีหูแหลมและ/หรือหูแข็งจะไม่ทนกับความอับทึบนี้ เนื่องจากหูมีการระบายอากาศได้ดี ดังนั้น ความถี่ในการทำความสะอาดจึงต่ำกว่า และสามารถทำได้ทุก ๆ สิบวัน ไม่มากก็น้อย ยังไงก็อย่าลืมทำความสะอาดเป็นประจำด้วยนะ เพราะปัญหาสุขภาพหูของน้องหมานั้นสามารถเกิดขึ้นได้ทุกประเภท