สุนัข Saluki ไม่ใช่หนึ่งในสายพันธุ์ที่รู้จักกันดีในบราซิล แต่เป็นสุนัขตัวเล็กที่สมควรได้รับความสนใจอย่างแน่นอน ด้วยร่างกายที่เพรียวบางและแข็งแรง Saluki จึงเป็นเพื่อนคู่หูที่ยอดเยี่ยมสำหรับช่วงเวลาต่างๆ ตราบใดที่มันมีพื้นที่ที่เหมาะสมในการใช้พลังงานทั้งหมดที่มี นอกจากนี้ การดูแลกิจวัตรประจำวันและสุขภาพของสุนัขก็ต้องการความสนใจจากผู้สอนเช่นกัน หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับซาลูกิ เราได้รวบรวมข้อมูลสำคัญ 10 ข้อมูลเกี่ยวกับสายพันธุ์สุนัขนี้ ลองดูสิ!

1) สุนัขซาลูกิถือเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก

หลายคนสงสัยว่าสายพันธุ์ใดคือสายพันธุ์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก และสิ่งหนึ่งที่แน่นอนก็คือ : Saluki อยู่ในรายชื่อนั้นแน่นอน ต้นกำเนิดของสุนัขตัวนี้ซึ่งรู้จักกันในชื่อ Persian Greyhound มีความเชื่อมโยงกับอียิปต์โบราณโดยมีคำอธิบายย้อนหลังไปถึงประมาณ 800 ปีก่อนคริสตกาล สุนัขซาลูกิได้รับการพิจารณาว่าค่อนข้างมีตระกูลในเวลานั้นและเป็นส่วนหนึ่งของราชวงศ์อียิปต์ มากเสียจนตัวอย่างบางส่วนถูกนำไปทำเป็นมัมมี่ร่วมกับฟาโรห์

2) บุคลิกของซาลูกิสงบและเป็นอิสระ

หากคุณไม่มีเวลามากพอที่จะอุทิศให้กับเพื่อนสี่ขา ซาลูกิสามารถเป็นเพื่อนคู่ใจในอุดมคติของคุณในแต่ละวัน สุนัขเหล่านี้ชอบที่จะอยู่กับมนุษย์และแม้กระทั่งเลือกสมาชิกในครอบครัวที่จะอุทิศตนให้มากขึ้น แต่พวกมันก็เป็นอิสระเสมอพูดให้ดังขึ้น ซึ่งหมายความว่าสุนัข Saluki จะอยู่เคียงข้างคุณทุกครั้งที่เป็นไปได้ แต่เขาให้ความสำคัญกับพื้นที่ของมันมากและจะไม่เสียใจหากไม่มีครอบครัวอยู่ตลอดเวลา

3) สุนัข Saluki สามารถทำความเร็วได้ถึง 60 กม./ชม.

ความอยากรู้อยากเห็นที่น่าประทับใจเกี่ยวกับ Saluki ก็คือ เนื่องจากร่างกายที่เพรียวบางและแข็งแรง สุนัขตัวนี้สามารถเดินทางไกลและทำความเร็วได้ถึง 60 กม./ชม. ความโค้งของกระดูกซี่โครงช่วยได้มากในด้านนี้ เนื่องจากเป็นสิ่งที่อำนวยความสะดวกในการวิ่งเป็นอย่างมาก และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมมันจึงกลายเป็นหนึ่งในสุนัขที่เร็วที่สุดที่มีอยู่

4) Saluki: สุนัข ต้องการพื้นที่ที่เหมาะสมในการวิ่งเล่น

ความว่องไวในการวิ่งเป็นเรื่องปกติสำหรับซาลูกิ แต่สุนัขตัวนี้ก็ชอบที่จะวิ่งและสนุกสนานเช่นกัน ด้วยเหตุผลนี้ สายพันธุ์นี้จึงไม่เหมาะกับอพาร์ทเมนต์และพื้นที่จำกัด ในความเป็นจริงแล้ว สุนัข Saluki ควรมีบ้านที่มีสนามหญ้าขนาดใหญ่ไว้วิ่งเล่น เพราะเขาต้องการการออกกำลังกายโดยเฉลี่ยวันละสองชั่วโมง นอกจากนี้ สายพันธุ์นี้ชอบขุดรูและชอบเล่นนอกบ้าน

5) การเข้าสังคมของสุนัขซาลูกิเป็นพื้นฐานสำหรับการอยู่ร่วมกันที่ดี

ซาลูกิไม่ใช่สายพันธุ์ที่เป็นมิตรที่สุดใน โลก โลก โดยเฉพาะกับคนแปลกหน้าหรือสัตว์อื่น ๆ ดังนั้นจึงขอแนะนำว่าสัตว์ต้องเข้าสังคมในช่วงเดือนแรกของชีวิต เพื่อไม่ให้มีปัญหาใดๆ ในการมาเยี่ยม หรือหากคุณตัดสินใจรับเลี้ยงลูกสุนัขตัวอื่น เป็นต้น

6) การฝึก Saluki ต้องใช้ความอดทนและสิ่งเร้าเชิงบวก

นี่คือสายพันธุ์ที่ชาญฉลาดที่สามารถ ใช่ เรียนรู้เทคนิคและคำสั่งพื้นฐานบางอย่าง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่านี่เป็นเรื่องง่าย ดังที่ได้กล่าวไปแล้ว สุนัขซาลูกินั้นรักอิสระมาก ซึ่งหมายความว่ามันชอบทำตามสัญชาตญาณมากกว่าแค่รับคำสั่ง สิ่งนี้ไม่ได้ป้องกันสัตว์จากการฝึกฝนอย่างสุภาพ สิ่งสำคัญคือต้องอดทนและให้รางวัลเสมอเมื่อเขาทำสิ่งที่ถูกต้อง

7) โรคหัวใจและภาวะพร่องไทรอยด์เป็นปัญหาทั่วไปในสุขภาพของ Saluki

สายพันธุ์นี้ไม่มีความโน้มเอียงต่อโรคทางพันธุกรรม แต่มีเงื่อนไขบางอย่างที่มีแนวโน้มที่จะพบได้บ่อยในซาลูกิ สุนัขพันธุ์อาจมีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจได้ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญมากที่ต้องทำการตรวจหัวใจบ่อยๆ นอกจากนี้ ภาวะพร่องไทรอยด์ก็เป็นข้อกังวลอีกประการหนึ่ง เช่นเดียวกับอุบัติการณ์ของมะเร็ง (ส่วนใหญ่ในกระเพาะอาหาร)

8) ลูกสุนัขซาลูกิต้องได้รับการเลี้ยงดูด้วยความรักและความเอาใจใส่อย่างมาก

เนื่องจากมันเป็นสุนัขที่สงวนไว้ตามธรรมชาติมากกว่า สภาพแวดล้อมรอบๆ ลูกสุนัขซาลูกิจึงเป็นสิ่งสำคัญต้อนรับค่อนข้างดี เขาต้องการความรู้สึกรักและควรได้รับการสนับสนุนให้มีปฏิสัมพันธ์กับคนประเภทต่างๆ และแม้แต่สัตว์อื่นๆ แต่การดูแลหลักต้องมาจากครอบครัวของเขา ผู้สอนจำเป็นต้องอุทิศเวลาให้กับ Saluki เมื่อเขายังเป็นลูกสุนัข โดยมอบความรักและความเสน่หามากมายเพื่อให้เขาเติบโตขึ้นพร้อมกับความรู้สึกที่ได้รับการอุปการะเลี้ยงดู

9) การแปรงขนทุกสัปดาห์เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้ขนของ Saluki มีสุขภาพดี

Saluki สามารถมีขนที่เรียบขึ้นหรือพองขึ้นได้ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าการดูแลบางอย่างต้อง ถูกนำไปทำให้ลูกสุนัขดูดี ดังนั้น การแปรงขนทุกสัปดาห์ไม่เพียงแต่เป็นวิธีกำจัดขนที่ตายแล้วของสัตว์เท่านั้น แต่ยังเพื่อป้องกันไม่ให้ขนเป็นปมและขนเป็นสังกะตัง (โดยเฉพาะบริเวณหู)

10) Saluki: ราคาของลูกสุนัขอาจสูงถึง R$ 6,000

สำหรับผู้ที่สนใจ Saluki ราคาอาจเป็นปัญหาได้ เนื่องจากนี่เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่แพงที่สุดที่ มีอยู่ โดยปกติมูลค่าจะแตกต่างกันไประหว่าง R$ 2,000 ถึง R$ 6,000 และจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น คอกสุนัขและสายเลือดของสัตว์ ถึงกระนั้นก็เป็นราคาที่ถือว่าไม่แพงเมื่อเทียบกับสายพันธุ์อื่นๆ แม้ว่านี่จะเป็นสายพันธุ์ที่มีราคาแพงกว่า แต่ก็ยังดีเสมอที่จะพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการรับเลี้ยงสุนัขแทนการซื้อ เนื่องจากมีหลายสายพันธุ์สัตว์ที่ถูกทอดทิ้งและช่วยเหลือโดยองค์กรพัฒนาเอกชนที่กำลังมองหาบ้าน