คุณเคยเห็นแมวร้องไห้ไหม? มีมของลูกแมวที่มีน้ำตาไหลมักจะเป็นที่นิยมบนโซเชียลเน็ตเวิร์ก แต่คุณรู้หรือไม่ว่าแท้จริงแล้ว สายพันธุ์นี้ส่งเสียงร้องในแบบที่แตกต่างจากที่เราเคยเห็นบนอินเทอร์เน็ตมาก การระบุแมวที่ร้องไห้เป็นงานที่ซับซ้อนมากในหมู่ผู้ปกครองสัตว์เลี้ยง เนื่องจากสัตว์ไม่ได้แสดงความรู้สึกในลักษณะเดียวกับสุนัขที่ร้องไห้ เป็นต้น จำเป็นต้องใส่ใจรายละเอียดบางอย่างในพฤติกรรมของพวกเขาและโดยเฉพาะอย่างยิ่งในแมวของแมว Patas da Casa อธิบายวิธีสังเกตด้านล่างว่าลูกแมวของคุณร้องไห้หรือไม่ และอะไรเป็นสาเหตุของปฏิกิริยานี้ในสัตว์เลี้ยงของคุณ นอกเหนือจากการให้คำแนะนำในการทำให้สัตว์สงบลง ลองดูสิ!

ทำไมแมวถึงร้องไห้

มีหลายสาเหตุที่ทำให้แมวร้องไห้ได้ ปฏิกิริยานี้พบได้บ่อยเมื่อพวกเขายังเป็นลูกสุนัข และการเปลี่ยนแปลงกิจวัตรประจำวันมักเป็นเรื่องแปลก ไม่นานหลังจากที่แยกออกจากครอก ลูกแมวอาจร้องไห้เพราะคิดถึงแม่ ความหิว ความหนาวเย็น หรือความกลัว

เมื่อพวกมันโตเต็มวัย แมวจะร้องไห้น้อยลงมาก เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้น มักจะมีเหตุผลเฉพาะเจาะจงอยู่เบื้องหลัง ครัวไม่สามารถเข้ากันได้ดีกับการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นการเปลี่ยนสภาพแวดล้อม เปลี่ยนอาหารแมว หรือแม้แต่การมาของสมาชิกใหม่ในครอบครัวอาจเป็นสาเหตุของพฤติกรรมนี้ได้ นอกจากนี้ การที่แมวร้องอาจเป็นสัญญาณของความเจ็บปวดหรือความไม่สบายกาย.

อีกเสียงหนึ่งที่พบได้บ่อยคือเสียงแมวร้องเหมียว: เสียงแหลมสูงและร้องอย่างต่อเนื่องซึ่งคล้ายกับเสียงทารกร้องไห้

ตรงกันข้ามกับมีม เสียงแมวร้อง ไม่ให้น้ำตาไหล

คุณอาจเคยเห็นมีมของแมวที่มีดวงตาเต็มไปด้วยน้ำตาที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึกเศร้า แม้จะเป็นวิธีที่ตลกในการเป็นตัวแทนของเราในบริบทที่น่าเศร้า แต่จริงๆ แล้วการที่แมวน้ำตาไหลหมายความว่าเขามีอาการแพ้ ระคายเคือง หรือได้รับบาดเจ็บร้ายแรงกว่านั้นที่ลูกตา ดังนั้นอย่าถูกหลอกโดยมส์ แมวร้องไห้ไม่ปล่อยน้ำตา หากสิ่งนี้เกิดขึ้น ให้พาสัตว์เลี้ยงไปหาสัตวแพทย์เพราะเขามีปัญหาที่ต้องได้รับการดูแล

วิธีที่ดีที่สุดในการระบุการร้องไห้คือการสังเกตพฤติกรรมทั่วไปของสัตว์เลี้ยง เหมียวของแมวสามารถบอกเราได้มากมายเกี่ยวกับความรู้สึกของแมว แมวเหมียวร้องเสียงแหลมและยาวกว่า โดยปกติแล้ว แมวจะกระสับกระส่ายหรือกระสับกระส่ายมากขึ้นหากมันเจ็บปวด

ตรวจหาสาเหตุของการที่แมวร้องไห้

หากคุณสังเกตเห็น แมวร้อง สิ่งสำคัญคือต้องมองหาสาเหตุก่อนที่จะแสดง สิ่งแรกที่คุณควรทำคือค่อยๆ สัมผัสร่างกายของสัตว์และสังเกตปฏิกิริยาของมัน หากมีการบาดเจ็บหรือแม้แต่ความรำคาญภายใน สัตว์เลี้ยงจะแสดงปฏิกิริยาบางอย่าง ทำรวมถึงการประเมินบริบททั้งหมดด้วย เช่น การย้ายบ้าน การเปลี่ยนอาหาร การมาถึงหรือการจากไปของสมาชิกในครอบครัวเป็นบางสถานการณ์ที่อาจทำให้ร้องไห้ได้

นอกจากนี้ ให้สังเกตว่าแมวให้อาหารอย่างไร บ่อยครั้งที่แมวหิวและร้องไห้เป็นปฏิกิริยาต่อปัญหานี้ สุดท้าย ในกรณีของลูกแมว ให้สังเกตว่าเขาหนาว หิว หรือแม้แต่ดูเหมือนคิดถึงแม่หรือไม่ หากคุณไม่เข้าใจว่าทำไมแมวถึงร้องไห้ด้วยตัวเอง ให้ขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ โดยบอกรายละเอียดทั้งหมดของพฤติกรรมและกิจวัตรของสัตว์เลี้ยงเสมอ

จะทำอย่างไรเมื่อแมวร้องไห้

หลังจากระบุสาเหตุที่ทำให้แมวร้องได้แล้ว ก็ถึงเวลาดำเนินการเพื่อยุติปัญหานี้ แต่ละกรณีต้องการมาตรการที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น แมวที่มีอาการเจ็บปวดต้องการนัดพบสัตวแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่ทำให้เกิดความรำคาญและเริ่มการรักษาโดยเร็วที่สุด หากสาเหตุคือการเปลี่ยนแปลงกิจวัตร พยายามทำให้สัตว์รู้สึกสบายตัวมากที่สุด ในกรณีที่การเปลี่ยนอาหารไม่ได้ผล ให้กลับไปพร้อมอาหารเดิมและค่อยๆ เพิ่มอาหารใหม่เพื่อให้สัตว์เลี้ยงคุ้นเคยกับอาหาร การรักษาอาหารให้สม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญ โดยให้อาหารในปริมาณที่แน่นอนต่อวันตามความถี่ที่สัตวแพทย์แนะนำ

หากแมวร้องพร้อมกับเปลี่ยนสภาพแวดล้อม เดิมพันกับการตกแต่งบ้านเพื่อให้เขารู้สึกสบายใจมากขึ้น แมวร้องไห้กับการมาถึงของสมาชิกครอบครัวใหม่ ในทางกลับกัน จำเป็นต้องได้รับการแนะนำทีละเล็กทีละน้อยเพื่อให้มันได้รับความมั่นใจ ในกรณีของลูกแมวที่ร้องไห้ การแยกจากครอกเร็วอาจเป็นเหตุผล: ตามหลักการแล้ว ลูกแมวควรอยู่กับแม่และพี่น้องอย่างน้อยในช่วง 60 วันแรกของชีวิต