การค้นหาศพสุนัขเป็นภารกิจที่ค่อนข้างยาก! ท้ายที่สุด เขาเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นที่ผู้สอนหลายคนไม่รู้ว่ามีอยู่จริง ตัวอย่างเช่น ใครก็ตามที่เห็นจมูกของสุนัขแทบจะไม่สามารถจินตนาการได้ว่านั่นคือตำแหน่งของลายนิ้วมือของสัตว์ หรือฟันของสุนัขนั้นสามารถบอกเราได้ว่าสัตว์นั้นอายุเท่าไหร่ หากคุณต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับส่วนต่าง ๆ ของร่างกายสุนัขและความประหลาดใจที่พวกมันซ่อนอยู่ โปรดดูบทความด้านล่าง!

อุ้งเท้าของสุนัขมีความมันมาก ซึ่งช่วยได้เมื่อเหยียบบนพื้นผิวที่เย็น

อุ้งเท้าของสุนัข เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น! มันมีกระดูกมากมายที่ช่วยประคองสัตว์ แต่นอกจากนี้ มันยังทำหน้าที่เป็นรูปแบบหนึ่งของการสื่อสาร เช่น ถ้าสุนัขยกอุ้งเท้าหน้าขึ้น มันกำลังเรียกครูให้เล่น

อุ้งเท้า ของสุนัขประกอบด้วยเบาะดิจิตอล (นิ้วซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวดูดซับแรงกระแทก) เบาะรองฝ่ามือ (ซึ่งอาจจะเป็นฝ่ามือ) เบาะรองนั่ง ("เบรค" ของสุนัขที่อุ้งเท้าหน้า) กรงเล็บน้ำค้าง (ส่วนที่ห้าภายใน และมีหน้าที่จับอาหารและสิ่งของต่างๆ) และเล็บ (กรงเล็บที่ต้องดูแลอยู่เสมอ) อุ้งเท้าของสุนัขมีไขมันมากซึ่งทำให้สามารถเหยียบบนพื้นเย็นได้โดยไม่มีปัญหา อย่างไรก็ตาม การทำเช่นนี้อาจทำให้สัตว์เลี้ยงรำคาญบนพื้นร้อนได้ เนื่องจากพื้นจะร้อนมากเกินไป ดังนั้น หลีกเลี่ยงการพาสุนัขไปเดินเล่นในช่วงเวลาที่มีอุณหภูมิสูงขึ้น

ปากกระบอกปืนของสุนัขมีดมกลิ่นได้แม่นยำกว่ามนุษย์ถึง 40 เท่า

ปากกระบอกปืนของสุนัขถือเป็นลายนิ้วมือของสุนัข มันเต็มไปด้วยลายเส้นที่เป็นเอกลักษณ์ของสัตว์เลี้ยงแต่ละตัวจึงเป็นเอกลักษณ์ของมันเอง! จมูกของสุนัขมีเซลล์รับกลิ่นประมาณ 200 ล้านเซลล์ ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะที่ทำให้สุนัขรับกลิ่นได้รุนแรงกว่าของมนุษย์ถึง 40 เท่า ไม่แปลกใจเลยที่พวกมันจะดมกลิ่นไปทั่ว และบางตัวยังทำงานเป็นสุนัขดมกลิ่นอีกด้วย นอกจากนี้ คุณอาจสังเกตเห็นว่าจมูกของสุนัขมักจะเปียกอยู่เสมอ สิ่งนี้เกิดขึ้นเนื่องจากความชื้นเป็นวิธีการปรับปรุงการดักจับกลิ่นจากอากาศ จมูกที่ชื้นยังคงช่วยในการควบคุมอุณหภูมิของร่างกายโดยการหายใจ รูปร่างของจมูกสุนัขมีผลต่อความสามารถในการหายใจ ตัวอย่างเช่น สุนัข Brachycephalic มีจมูกที่สั้น ซึ่งทำให้หายใจลำบาก

วิธีการมองเห็นของสุนัขนั้นแตกต่างออกไปมาก

ดวงตาเป็นอวัยวะที่มีคนหนาแน่นมากที่สุดอวัยวะหนึ่งในร่างกายของสุนัข ของความประหลาดใจ คุณอาจเคยได้ยินว่าสุนัขมองเห็นขาวดำ แต่นั่นไม่ใช่ในกรณีนี้ วิธีที่สุนัขมองเห็นช่วยให้สามารถระบุสีได้ แต่ในปริมาณที่น้อยกว่า สีแดงและสีเขียวไม่แตกต่างจากสุนัข ในขณะที่สีน้ำเงินและสีเหลืองสามารถระบุได้ง่ายกว่า การขาดทุกสีทำให้สุนัขมองเห็นสีเทามากขึ้น - ด้วยเหตุนี้จึงมีชื่อเสียงในการมองเห็นดำและขาว. โดยทั่วไปแล้วสายตาของสุนัขจะไม่ดีนัก แต่ในทางกลับกัน มันก็มีความสามารถที่อยากรู้อยากเห็น ตาของสุนัขสามารถรับแสงได้ในปริมาณมาก ส่งผลให้มองเห็นในตอนกลางคืนได้ดีเยี่ยม นอกจากนี้ กายวิภาคของร่างกายสุนัขยังทำให้ดวงตาของมันอยู่ด้านข้างเล็กน้อย เพื่อให้มองเห็นรอบข้างได้ดี

หูของสุนัขสามารถจับความถี่เสียงที่สูงมากได้

หากวิธีการที่สุนัขมองเห็นคือ ไม่ดีนัก การได้ยินของสุนัขช่วยชดเชยได้ สุนัขรับเสียงที่ความถี่สูงถึง 40,000 Hz - มากกว่ามนุษย์ถึงสองเท่า! นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงเป็นเรื่องปกติมากที่จะเห็นสุนัขกลัวดอกไม้ไฟ เนื่องจากการได้ยินที่ละเอียดอ่อนของพวกมันจะทำให้เสียงดังยิ่งขึ้น หูของสุนัขแบ่งออกเป็นหูชั้นนอก (ที่ซึ่งคลื่นเสียงเริ่มถูกจับและส่ง) หูชั้นกลาง (ซึ่งเป็นที่ตั้งของแก้วหู) และหูชั้นใน (ซึ่งเป็นที่ตั้งของโคเคลีย ซึ่งเป็นอวัยวะที่รับผิดชอบในการได้ยินของสุนัขและ ระบบขนถ่าย. ซึ่งควบคุมการทรงตัว). ประเภทของหูสุนัขมีหลากหลาย: มีหูขนาดใหญ่หรือเล็ก ตั้งตรง กึ่งตั้งตรงหรือหลบตา และหูแหลม สามเหลี่ยมหรือกลม นอกจากนี้หูของสุนัขยังสามารถเคลื่อนไหวได้หลายรูปแบบแม้กระทั่งเป็นการสื่อสารรูปแบบหนึ่ง สิ่งนี้เกิดขึ้นได้ด้วยกล้ามเนื้อ 18 มัดที่อยู่ในบริเวณนี้

หูและจมูกของสุนัขมีหน้าที่ในการได้ยินและดมกลิ่นขัดเกลา

ฟันของสุนัขบ่งบอกอายุของสุนัข

นอกจากการป้อนอาหารแล้ว ฟันของสุนัขยังช่วยหยิบสิ่งของ เป็นส่วนหนึ่งของเกม และแน่นอน ลูกสุนัขกัดด้วยตัวเขาเอง วัตถุ ฟันสุนัขมีทั้งหมด 42 ซี่ แบ่งเป็นเขี้ยว ฟันหน้า ฟันกราม และฟันกรามน้อย ความอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับฟันของสุนัขก็คือพวกมันจะหลุดออกมาด้วย! สุนัขมีฟันน้ำนมและผ่านกระบวนการเปลี่ยนฟันสุนัขเมื่ออายุประมาณ 4 ถึง 7 เดือน รวดเร็วมากและหลายครั้งติวเตอร์ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเกิดขึ้น แต่เมื่อฟันของสุนัขหลุดออกมา สัตว์เลี้ยงจะรู้สึกคันและเพื่อบรรเทามัน กัดอะไรก็ได้ที่ขวางหน้า ความอยากรู้อีกอย่างเกี่ยวกับฟันของสุนัขก็คือ มันเป็นไปได้ที่จะค้นหาอายุของสุนัขโดยใช้มัน: อายุไม่เกิน 1 ปี พวกมันมีสีขาวและโค้งมน ระหว่าง 1 ปีครึ่งถึง 2 ปี ฟันหน้าจะเป็นเหลี่ยมมากกว่า หลังจาก 6 ทุกตัวจะมีเหลี่ยมมากขึ้นและเขี้ยวจะกลมมากขึ้น

ร่างกายของสุนัขทำงานผ่านระบบต่างๆ จากภายใน

เช่นเดียวกับมนุษย์ ร่างกายของสุนัขถูกควบคุมโดยระบบต่างๆ ที่ทำงานร่วมกันเพื่อให้แน่ใจว่าร่างกายทำงานได้อย่างถูกต้อง ภายในร่างกายของสุนัขมีอวัยวะมากมายที่มีอยู่ในร่างกายมนุษย์เช่นกัน ระบบประสาทควบคุมอวัยวะส่วนใหญ่ของสัตว์ ดูแลประสาทสัมผัส การเคลื่อนไหว การบูรณาการและการปรับตัว แล้วระบบหายใจทำหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการหายใจและระบบย่อยอาหารทำหน้าที่ย่อยอาหาร อย่างไรก็ตาม วิธีที่ร่างกายของสุนัขทำการย่อยอาหารจากภายในเป็นเรื่องน่าสงสัย ระบบย่อยอาหารของสุนัขทำงานได้เร็วกว่าสัตว์ชนิดอื่นมาก

หางของสุนัขมีกระดูกและสามารถบอกเราได้ว่าสุนัขรู้สึกอย่างไร

หลายคนไม่รู้ แต่หางของสุนัขมีกระดูก เป็นส่วนขยายของกระดูกสันหลังและประกอบด้วยกระดูกสันหลังที่คั่นด้วยหมอนรองกระดูกสันหลังที่กันกระแทกและช่วยให้เคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็ว จำนวนกระดูกสันหลังแตกต่างกันไประหว่าง 5 ถึง 20 ซึ่งหมายความว่าส่วนนี้ของร่างกายสุนัขอาจมีขนาดต่างกันได้ หางของสุนัขมีบทบาทพื้นฐานในภาษาสุนัข โดยมีความหมายหลายอย่าง สุนัขที่หางเชิดขึ้นและแกว่งไปมาอย่างรวดเร็ว หมายความว่ามันมีความสุข หางของสุนัขยื่นออกไปแล้วเป็นสัญญาณว่าเขาตื่นตัว หางของสุนัขยังคงปล่อยฟีโรโมนที่กระตุ้นปฏิกิริยาในสุนัขตัวอื่นๆ เช่นเดียวกับสุนัขตัวผู้ที่ปล่อยฟีโรโมนทางเพศเพื่อดึงดูดตัวเมีย นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงเป็นเรื่องปกติมากที่จะเห็นสุนัขดมหางของอีกฝ่าย

สมองของสุนัขเข้าใจคำบางคำที่เราพูด

สมองของสุนัขมีความอยากรู้อยากเห็นอย่างมาก สุนัขเป็นสัตว์ที่ฉลาดและมีเซลล์ประสาทประมาณ 530 ล้านเซลล์ คุณมีความรู้สึกว่าสุนัขเข้าใจทุกสิ่งที่คุณพูดหรือไม่? เป็นเพราะคุณเข้าใจ! แม้จะไม่มีเหตุผล แต่สมองของสุนัขก็สามารถเข้าใจคำและคำสั่งบางอย่างได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากถูกกระตุ้นด้วยการทำซ้ำๆ นอกจากนี้ เขายังพยายามอย่างมากที่จะเข้าใจว่ามนุษย์หมายถึงอะไร การศึกษาได้พิสูจน์แล้วว่าสมองของสุนัขจะทำงานมากขึ้นเมื่อได้ยินคำศัพท์ที่ไม่รู้จัก เนื่องจากพวกมันพยายามที่จะเข้าใจความหมาย นอกจากนี้ สุนัขยังมีความทรงจำ! งานวิจัยบางชิ้นพิสูจน์ว่าสมองของสุนัขสามารถเก็บข้อมูลได้ ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถจำคำสั่งได้แม้ว่าจะไม่ได้ยินเป็นเวลานานก็ตาม