คุณเคยหยุดคิดว่าร่างกายของสุนัขทำงานอย่างไร? กายวิภาคของสุนัขเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นที่อาจทำให้เราประหลาดใจ สิ่งหนึ่งที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดก็คือสุนัขไม่ได้มองเห็นสีทั้งหมด แต่นั่นยังห่างไกลจากข้อเท็จจริงที่น่าสนใจที่สุดเกี่ยวกับกายวิภาคของสุนัข เมื่อลองคิดดู Patas da Casa ได้รวบรวมทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับร่างกายของเพื่อนสี่ขาของคุณ ตั้งแต่อวัยวะและระบบหลักของสัตว์ ไปจนถึงประสาทสัมผัสทั้งห้า ดูด้านล่าง!

กายวิภาคศาสตร์: สุนัขสามารถมีกระดูกได้ประมาณ 321 ชิ้นกระจายทั่วร่างกาย

คำถามที่พบบ่อยในหมู่ผู้เลี้ยงสุนัขคือสุนัขมีกระดูกกี่ชิ้น นี่เป็นคำถามที่อาจได้รับอิทธิพลจากหลายปัจจัย เช่น สายพันธุ์และช่วงชีวิตของสัตว์ ตัวอย่างเช่น ลูกสุนัขมักจะมีกระดูกมากกว่าผู้ใหญ่ สิ่งที่เกิดขึ้นคือในช่วงการเจริญเติบโตของสัตว์ องค์ประกอบของกระดูกบางส่วนจะหลอมรวมกัน และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงอาจกล่าวได้ว่าสุนัขโตเต็มวัยมักจะมีกระดูกประมาณ 319 ถึง 321 ชิ้นกระจายอยู่ทั่วร่างกาย นอกจากนี้ สายพันธุ์ยังมีอิทธิพลเนื่องจากขนาดของหางของสุนัขสามารถแตกต่างกันไปในแต่ละสายพันธุ์

โครงกระดูกของสุนัขแบ่งออกเป็นสามส่วน: แกน ส่วนปลาย และอวัยวะภายใน ในส่วนแรกจะพบกระดูกสันหลัง กระดูกกะโหลกศีรษะ กระดูกอก และซี่โครงของสุนัข กระดูกของแขนขาอยู่ในภาคผนวกทรวงอกและกระดูกเชิงกราน ในขณะที่อวัยวะภายในเป็นที่ที่กระดูกองคชาตของสุนัขพัฒนา ในกรณีของเพศชาย กระดูกผู้หญิงไม่มีกระดูกนี้

เป็นที่น่าสังเกตว่านี่เป็นส่วนสำคัญของกายวิภาคของสุนัข เนื่องจากกระดูกมีหน้าที่หลักในการค้ำจุนและปกป้องร่างกายของสุนัข และยังทำหน้าที่เป็นที่เก็บแร่ธาตุด้วย เมื่อรวมกับกล้ามเนื้อแล้ว พวกมันช่วยในการเคลื่อนไหวและความยืดหยุ่นของสุนัข ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องเฝ้าระวังโรคที่อาจเกิดขึ้นได้ซึ่งส่งผลกระทบต่อบริเวณนี้

กล้ามเนื้อเป็นอีกส่วนหนึ่งพื้นฐานทางกายวิภาคของสุนัข

ตามที่ได้กล่าวไปแล้ว กล้ามเนื้อมีบทบาทสำคัญในการเคลื่อนไหวที่สุนัขทำ การหดตัวและการคลายตัวของกล้ามเนื้อทำให้สุนัขสามารถเคลื่อนไหวได้หลากหลายวิธี ตั้งแต่การกระทำง่ายๆ เช่น การเดินและวิ่ง ไปจนถึงการนั่ง การนอน การพลิกตัว เป็นต้น คุณรู้หรือไม่ว่าสุนัขสามารถวิ่งด้วยความเร็วเฉลี่ย 30 กม./ชม. มันน่าประทับใจจริงๆ และทั้งหมดนี้เป็นไปได้ด้วยกายวิภาคศาสตร์และกล้ามเนื้อของสัตว์เหล่านี้

เป็นกล้ามเนื้อที่ทำให้ลูกสุนัขมีความมั่นคงในขณะที่เขาเคลื่อนไหว นอกจากนี้ พวกมันยังช่วยให้ร่างกายอบอุ่นและ ควบคุมอุณหภูมิ อุณหภูมิร่างกายสุนัข กล้ามเนื้อของสุนัขสามารถกระทำได้โดยสมัครใจ นั่นคือ เมื่อสุนัขรับรู้ถึงการกระทำ เช่น การเดิน หรือโดยไม่ได้ตั้งใจ เช่นเดียวกับสุนัขการเต้นของหัวใจของสุนัข

กายวิภาคของสุนัข: เข้าใจระบบหัวใจและหลอดเลือดของสุนัข

หัวใจของสุนัขถือเป็นอวัยวะที่สำคัญและมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับสิ่งเหล่านี้ สัตว์. เช่นเดียวกับมนุษย์ มันแบ่งออกเป็นสี่โพรง สองโพรง และสอง atria หน้าที่ของอวัยวะส่วนนี้คือการสูบฉีดเลือดไปทั่วร่างกายของสุนัขผ่านทางหลอดเลือดดำและหลอดเลือดแดง ซึ่งเป็นส่วนที่มีหน้าที่ขนส่งของเหลวไปทั่วร่างกายของสัตว์

เนื่องจากเป็นหนึ่งในส่วนที่สำคัญที่สุดของกายวิภาคของสุนัข ผู้สอนจึงต้องตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงที่เป็นไปได้ในหัวใจของสุนัข โรคหัวใจบางชนิดพบได้บ่อย เช่น โรคกล้ามเนื้อหัวใจพอง ความดันโลหิตสูง และเสียงบ่นของหัวใจในสุนัข เมื่อสงสัยว่ามีปัญหาใดๆ หรือสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในการเต้นของหัวใจด็อกโก อย่าลืมมองหาผู้เชี่ยวชาญ

ระบบย่อยอาหารของสุนัข: ทำงานอย่างไร และใช้เวลานานเท่าใดกว่าที่อาหารจะถูกย่อย

เกิดจากปาก หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ลำไส้เล็กและลำไส้ใหญ่ ระบบย่อยอาหารของสุนัขมีหน้าที่ดูดซับสารอาหารที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาของสิ่งมีชีวิตจากอาหารของสุนัข ทุกอย่างเริ่มต้นที่ปาก: ฟันของสุนัขมีหน้าที่เคี้ยวอาหารและย่อยอาหารให้เป็นชิ้นเล็กๆอำนวยความสะดวกในกระบวนการย่อยอาหาร จากนั้นต่อมน้ำลายจะหล่อลื่นทางเดินของเม็ดอาหารในระหว่างกระบวนการกลืน หลอดอาหารจะลำเลียงอาหารไปยังกระเพาะอาหาร ซึ่งจะถูกเก็บไว้จนกว่าจะเปลี่ยนเป็นพลังงานโดยลำไส้เล็ก ซึ่งเป็นอวัยวะหลักของระบบย่อยอาหารของสุนัข นี่คือจุดที่การย่อยและการดูดซึมสารอาหารส่วนใหญ่เกิดขึ้น ในทางกลับกัน สิ่งที่ร่างกายของสุนัขใช้ไม่ได้จะถูกส่งตรงไปยังลำไส้เล็ก ซึ่งของเสียจะถูกเปลี่ยนเป็นอุจจาระ

แต่กระบวนการทั้งหมดนี้ใช้เวลานานเท่าใด นั่นจะขึ้นอยู่กับสิ่งที่ลูกสุนัขกิน ดังนั้นระบบย่อยอาหารของสุนัขอาจใช้เวลาตั้งแต่ 10 ชั่วโมงถึง 2 วันในการย่อยอาหารอย่างสมบูรณ์ อาหารบางชนิดย่อยสลายได้ง่ายกว่า ในขณะที่อาหารบางชนิดซับซ้อนกว่า และนี่เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการย่อยอาหาร นอกจากนี้ อายุของสุนัขยังรบกวนสิ่งนี้: ลูกสุนัขสามารถย่อยอาหารได้เร็วกว่าสุนัขโต เมื่ออายุมากขึ้น เมตาบอลิซึมของพวกมันมีแนวโน้มที่จะช้าลงมากขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุที่สุนัขสูงวัยสามารถย่อยอาหารได้นานขึ้น

การตั้งท้องในสุนัข: สิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับระบบสืบพันธุ์ของสุนัข

ระบบสืบพันธุ์เกิดจากอวัยวะสืบพันธุ์ของสุนัข ซึ่งในกรณีของผู้ชายคือลูกอัณฑะและองคชาต และในกรณีของผู้หญิงก็คือมดลูกและรังไข่ แม้ว่าพวกมันจะมีบทบาทสำคัญในการสืบพันธุ์ของสุนัข แต่ผู้สอนหลายคนเลือกที่จะทำตอนสุนัขเพื่อหลีกเลี่ยงการตั้งครรภ์ที่ไม่ต้องการซึ่งอาจนำไปสู่การเพิ่มจำนวนของสัตว์ที่ถูกทอดทิ้ง นอกจากนี้ ข้อดีอีกอย่างของการทำหมันสุนัขคือขั้นตอนดังกล่าวช่วยป้องกันโรคต่างๆ เช่น มะเร็งต่อมลูกหมากในตัวผู้ และมะเร็งเต้านมและมดลูกในตัวเมีย

ดูว่าประสาทสัมผัสทั้งห้าของสุนัขทำงานอย่างไร!

• การได้ยินของสุนัข:

หูของสุนัขมีโครงสร้างทางกายวิภาคที่ทำให้สุนัขสามารถจับเสียงและเสียงรบกวนต่างๆ ได้มากขึ้น แม้จะอยู่ไกลออกไปหลายเมตร นั่นเป็นเหตุผลที่มักกล่าวกันว่าสัตว์เหล่านี้มีการได้ยินที่เฉียบคมมาก พวกมันสามารถหาที่มาของเสียงส่วนใหญ่ได้แทบจะโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้หูของสุนัขยังจับความถี่ได้สูงกว่าของเราอีกด้วย นั่นคือในขณะที่มนุษย์สามารถระบุความถี่ได้ระหว่าง 16 ถึง 20,000 Hz เท่านั้น สุนัขกลับมีความถี่สูงถึง 40,000 Hz ในทางปฏิบัติ หมายความว่าเราไม่จับเสียงที่มีระดับเสียงสูงมากนัก ในขณะที่สุนัขจะไวต่อเสียงประเภทนี้โดยสิ้นเชิง

• ประสาทรับกลิ่นของสุนัข:

สุนัขมีเซลล์รับกลิ่นประมาณ 200 ล้านเซลล์ ซึ่งหมายความว่าพวกมันรับกลิ่นได้ดีกว่าถึง 40 เท่ามากกว่ามนุษย์ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมนี่จึงเป็นอีกหนึ่งความรู้สึกที่เฉียบแหลมในสัตว์เหล่านี้ และสุนัขสามารถแยกแยะกลิ่นจำนวนมากและหลากหลายได้จากระยะทางหลายเมตร ข้อเท็จจริงที่น่าสงสัยอีกประการหนึ่งก็คือ สุนัขมี "หน่วยความจำในการดมกลิ่น" ประเภทหนึ่ง นั่นคือ พวกมันจำกลิ่นบางอย่างที่เคยได้กลิ่นมาก่อน การรับรู้กลิ่นที่พัฒนาขึ้นอย่างมากนี้เป็นไปได้ด้วยกายวิภาคของจมูกของสุนัขเท่านั้น เนื่องจากสุนัขมีรูจมูกเฉพาะสำหรับหายใจและอีกรูหนึ่งสำหรับดมกลิ่น

• การมองเห็นของสุนัข:

อย่างที่หลายๆ คนทราบ สุนัขไม่ได้มองเห็นทุกสี สีที่พวกเขามองเห็นได้ง่ายที่สุดคือสีฟ้าและสีเหลือง และบางเฉดของ สีเขียว. สัตว์ไม่รู้จักสีแดง, ส้ม, ชมพูและโทนอุ่นและสดใสอื่น ๆ สิ่งนี้เกิดขึ้นเนื่องจากโครงสร้างทางกายวิภาคของเรตินา ซึ่งมีจำนวนกรวยน้อยกว่ามนุษย์มาก และบริเวณนี้มีหน้าที่จับแสงและสี ในทางกลับกัน สุนัขมองเห็นได้ดีในที่มืด ต้องขอบคุณโครงสร้างอื่นที่เรียกว่าไม้เท้า สิ่งสำคัญคือต้องเน้นย้ำว่าการมองเห็นรอบข้างของสุนัขทำงานได้ดีมากและช่วยให้สัตว์เหล่านี้มีการรับรู้สภาพแวดล้อมมากกว่ามนุษย์ เนื่องจากตาของพวกมันอยู่ที่ด้านข้างของศีรษะ พวกมันสามารถเข้าถึงช่วง 240º .

• ลิ้มรสสุนัข:

ในบรรดาประสาทสัมผัสของสุนัข เพดานปากถือว่ามีความแหลมน้อยที่สุด เหตุผลนี้ง่ายมาก: ปริมาณของต่อมรับรสที่สุนัขมีนั้นน้อยกว่าของสัตว์อื่นมาก ถ้ามนุษย์มีปุ่มรับรสประมาณ 9,000 ปุ่ม สุนัขจะมีปุ่มรับรสโดยเฉลี่ยเพียง 1,700 ปุ่มเท่านั้น ถึงกระนั้นก็แยกแยะรสชาติหลักๆ ได้ว่าเค็ม หวาน ขม เปรี้ยว แต่ก็ไม่ซับซ้อนขนาดนั้น นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมโดยทั่วไปแล้ว การทำให้สุนัขพอใจจึงไม่ใช่เรื่องยากนัก เนื่องจากสิ่งที่กระตุ้นความสนใจของสุนัขในอาหารบางอย่างได้อย่างแท้จริงคือกลิ่น เนื่องจากกลิ่นของสุนัขนั้นทรงพลังมาก

• การสัมผัสของสุนัข:

การสัมผัสเป็นหนึ่งในประสาทสัมผัสแรกที่พัฒนาขึ้นในร่างกายสุนัข มีปลายประสาทกระจายไปทั่วร่างกายของสุนัขซึ่งทำให้สัตว์สามารถรับรู้ความรู้สึกต่างๆ เช่น ความเย็นและความร้อน นอกจากนี้ การสัมผัสทำให้สุนัขสามารถรับรู้และป้องกันตัวเองจากการรุกรานจากภายนอก เช่น การกัดของแมลง อย่างไรก็ตาม ความไวของสุนัขนั้นไม่เหมือนกันเสมอไป เนื่องจากปัจจัยที่สามารถมีอิทธิพลต่อการรับรู้เหล่านี้คือขนาดและความหนาของขนสุนัข