ทุกคนที่เห็นแมวที่มีเฮเทอโรโครเมียเป็นครั้งแรกจะต้องประหลาดใจกับเสน่ห์และความแปลกประหลาดของแมวเหล่านี้ แม้ว่าจะไม่ใช่เฉพาะแมว แต่เนื่องจากสุนัขและมนุษย์ก็สามารถมีภาวะนี้ได้เช่นกัน การเห็นแมวที่มีตาสีเดียวเป็นสิ่งที่เรียกความสนใจของเรา ในช่วงเวลานี้ มีคำถามมากมายเข้ามาในหัวของฉัน เช่น อะไรเป็นสาเหตุของเฮเทอโรโครเมียและการพัฒนาของมันอย่างไร หรือสิ่งที่จำเป็นสำหรับแมวที่มีตาสองสี

ฉันอยากรู้ว่าจะเข้าใจดีกว่าอะไร อาการนี้ได้รับการรักษาหรือไม่ และลูกแมวชนิดใดที่ได้รับผลกระทบจากเฮเทอโรโครเมียมากที่สุด Paws of the House รวบรวมข้อมูลที่สำคัญที่สุดเกี่ยวกับเรื่องนี้และช่วยให้คุณค้นพบทุกสิ่งเกี่ยวกับแมวที่มีตาสองสี มากับเราสิ!

เฮเทอโรโครเมียคืออะไร

เฮเทอโรโครเมียเป็นภาวะที่มีการเปลี่ยนแปลงสีของม่านตาของแมว แต่ยังส่งผลต่อสายพันธุ์อื่นๆ เช่น สุนัข ม้า และมนุษย์ อาจส่งผลต่อดวงตาข้างเดียวหรือทั้งสองข้าง และแบ่งออกเป็นสามประเภท: สมบูรณ์ บางส่วนหรือส่วนกลาง ดูสิ่งที่แตกต่างจากที่อื่น:

เฮเทอโรโครเมียแบบสมบูรณ์: คือการที่ดวงตาแต่ละข้างมีสีต่างกัน

เฮเทอโรโครเมียบางส่วน: คือเมื่อม่านตาของตาข้างเดียวกันมีสองสีต่างกัน ราวกับว่ามันมีจุด

สีกลาง (Central heterochromia): คือเมื่อดวงตามีสีเดียวต่างกันแค่ตรงกลางม่านตารอบๆ รูม่านตาเท่านั้น

แมวส่วนใหญ่เกิดมาพร้อมกับดวงตาสีเดียว ซึ่งอาจคงอยู่หรือมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในช่วงเดือนแรกของชีวิต หากผู้สอนสังเกตว่าเขามีแมวที่มีตาสองสี - สมบูรณ์ บางส่วนหรือส่วนกลาง - นั่นเป็นเพราะว่านี่คือแมวที่มีเฮเทอโรโครเมีย แต่สิ่งสำคัญคือต้องใส่ใจกับอายุของสัตว์เลี้ยง เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงนี้พบได้บ่อยในลูกสุนัขแมวเท่านั้น ในสัตว์ที่โตเต็มวัย ภาวะเฮเทอโรโครเมียไม่ถือเป็น "ปกติ" เนื่องจากสามารถบ่งชี้ถึงโรคตาได้

แมวที่มีเฮเทอโรโครเมีย: พันธุกรรมอธิบายภาวะนี้ได้อย่างไร

เฮเทอโรโครเมียในแมวเกิดขึ้นเนื่องจาก ของการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมที่รบกวนปริมาณเมลานินที่มีอยู่ในดวงตาแต่ละข้าง ในทางกลับกัน เมลานินพบในเซลล์ที่เรียกว่าเมลาโนไซต์ และสาเหตุหลักของการเปลี่ยนแปลงนี้คือยีน EYCL3 ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้การสร้างเม็ดสีในดวงตา ยิ่งมีเมลานินมากเท่าไหร่ สีตาก็จะยิ่งเข้มขึ้นเท่านั้น (โดยทั่วไปจะถูกดึงไปทางสีน้ำตาลหรือสีดำ) และยิ่งเมลานินมีปริมาณน้อยลงเท่าใด สีก็จะยิ่งจางลงเท่านั้น (และนี่คือจุดที่สีเขียวและสีน้ำเงินปรากฏขึ้น) สำหรับการกำหนดเฉดสีของดวงตาแต่ละข้าง ยีนที่รับผิดชอบคือ EYCL1 เขาคือผู้ที่จะตัดสินว่าแมวที่มีตาสีฟ้าจะมีโทนสีเดียวกันนี้อ่อนหรือเข้มกว่า

อะไรคือหลักสาเหตุของแมวที่มีตาสองสี?

แมวที่มีเฮเทอโรโครเมียสามารถมีดวงตาที่มีสีต่างกันได้จากหลายสาเหตุ แต่ส่วนใหญ่มักเป็นภาวะที่มีมาแต่กำเนิดซึ่งเป็นกรรมพันธุ์ นั่นคือมันเป็นเงื่อนไขทางพันธุกรรมที่ส่งต่อจากพ่อแม่สู่ลูก ในกรณีนี้ สัตว์เกิดมาพร้อมกับลักษณะนี้อยู่แล้ว ดังนั้นความผิดปกตินี้จึงไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของแมวเลยและไม่เป็นอันตรายต่อชีวิตของมัน "อาการ" สังเกตได้ตั้งแต่อายุยังน้อย แต่ไม่มีเหตุผลที่เจ้าของจะต้องกังวลเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง

ที่นี่ควรเน้นความอยากรู้อยากเห็น: สีของดวงตาของแมวสามารถเปลี่ยนได้ถึง 6 อายุเดือน. ดังนั้น อย่าแปลกใจถ้าลูกแมวเกิดมามีดวงตาสีเดียว แล้วมันก็เปลี่ยนไป นี่เป็นกระบวนการปกติอย่างสมบูรณ์ เนื่องจากเป็นช่วงประมาณสัปดาห์ที่หกของชีวิตที่เซลล์เมลาโนไซต์เริ่มผลิตเมลานินซึ่งมีหน้าที่สร้างเม็ดสีที่ดวงตาของแมว จนกว่าจะถึงเวลานั้น อาจเกิดขึ้นได้มากมาย!

ประเด็นสำคัญอีกประการที่ควรเน้นย้ำก็คือ แมวที่มีเฮเทอโรโครเมียทางพันธุกรรมมีเมลาโนไซต์ ซึ่งก็คือเซลล์ที่ผลิตเมลานินในปริมาณที่น้อยกว่า ดังนั้น มักจะเป็นแมวที่มี ดวงตาสีฟ้า ขนสีขาวหรือจุดสีขาว นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมการหาแมวดำที่มีเฮเทอโรโครเมียจึงเป็นเรื่องยากมาก แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย แต่มันง่ายมากที่จะหาแมวขาวที่มีตาสองสีต่างกัน

นอกเหนือจากแมวที่มีเฮเทอโรโครเมียแต่กำเนิด ความเป็นไปได้อีกอย่างคือเมื่อแมวพัฒนาหรือได้รับเฮเทอโรโครเมียตลอดชีวิต ในกรณีเหล่านี้ ปัญหามักจะปรากฏในวัยผู้ใหญ่และเป็นผลมาจากอุบัติเหตุหรือความเจ็บป่วย นอกจากแผลเป็นและการบาดเจ็บแล้ว ยังมีโรคบางอย่างที่ทำให้ตาขาว เป็นสีน้ำเงินหรือเป็นคราบได้ และอาการทั้งหมดนี้ควรได้รับการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ

สิ่งที่ทำให้แมวมีตาสีเดียวในแต่ละสี ระยะตัวเต็มวัย?

หากตรวจพบภาวะเฮเทอโรโครเมียในแมวก็ต่อเมื่อสัตว์เข้าสู่ระยะโตเต็มวัยแล้ว สิ่งสำคัญคือต้องเปิดการเตือน โดยปกติจะเป็นสัญญาณว่ามีบางอย่างผิดปกติในการมองเห็นของแมว และอาจบ่งชี้ถึงโรคตาในแมวได้ ตัวอย่างของปัญหาที่อาจทำให้สีของม่านตาเปลี่ยนไป ได้แก่:

• ต้อกระจก
• ต้อหินในแมว
• แผลที่กระจกตา
• รอยโรค
• เนื้องอก

ไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม หากคุณสังเกตเห็นว่าแมวของคุณมีตาสองสีหรือพบว่าดวงตามีการเปลี่ยนแปลงใดๆ และมันโตเต็มวัยแล้ว จำเป็นต้องขอคำแนะนำจากสัตวแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านจักษุวิทยา เขาจะสามารถวินิจฉัยอาการได้อย่างถูกต้องและระบุวิธีที่ดีที่สุดในการรักษาผู้ป่วย

แมวตาสองสี: สายพันธุ์ใดได้รับผลกระทบมากที่สุด

หากคุณชอบสัตว์ประเภทต่างๆ และ คุณกำลังมองหาแมวที่มีตาข้างละสี รู้ไว้ใช่ว่างานนี้ไม่ใช่เรื่องยาก เนื่องจากเป็นภาวะที่มักเกิดจากกรรมพันธุ์ จึงมีแมวบางสายพันธุ์ที่มีแนวโน้มที่จะเกิดภาวะเฮเทอโรโครเมียมากกว่า พวกเขาคือ:

• แองโกร่า;
• เบอร์มีส;
• หางสั้นญี่ปุ่น;
• แมวอิงลิชช็อตแฮร์;
• เปอร์เซีย ;
• Siamese;
• Turkish Van;

ถึงกระนั้น สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าสายพันธุ์เพียงอย่างเดียวไม่สามารถระบุได้ว่าแมวจะมีภาวะ heterochromia หรือไม่ แม้ว่าสายพันธุ์เหล่านี้มีแนวโน้มที่จะเกิดภาวะนี้มากกว่า แต่ลูกแมวต้องมียีนที่ทำหน้าที่ลดจำนวนเซลล์เมลาโนไซต์ (EYCL3)

แมวขาวที่มี เฮเทอโรโครเมียมีแนวโน้มที่จะหูหนวกหรือไม่

คุณคงเคยได้ยินทฤษฎีที่ว่าแมวขาวมีแนวโน้มที่จะหูหนวกใช่ไหม! แต่เชื่อฉันเถอะ: ความเสี่ยงที่จะหูหนวกในแมวขาวไม่ใช่เรื่องปรัมปรา ในความเป็นจริง ความเสี่ยงนี้จะยิ่งมากขึ้นเมื่อพูดถึงสัตว์ที่มีตาสีฟ้า ซึ่งรวมถึงแมวขาวที่มีเฮเทอโรโครเมีย ซึ่งอาจมีตาข้างเดียวเป็นสีนั้น คำอธิบายเป็นเพราะยีนที่รับผิดชอบการลดลงของจำนวนเซลล์เมลาโนไซต์มักจะทำให้เกิดความบกพร่องทางการได้ยิน ดังนั้น หากแมวมีตาสีฟ้าข้างเดียวและตาสีน้ำตาลข้างเดียว เช่น ข้างที่มีตาสีฟ้าจะมีโอกาสหูหนวกมากกว่า

หากต้องการทราบวิธีระบุแมวหูหนวก ก่อนอื่นคุณต้องมี ถึงสังเกตพฤติกรรมของเพื่อนสี่ขาของคุณ การทดลองบางอย่างที่สามารถทำได้ ได้แก่ เปิดเครื่องดูดฝุ่น ปรบมือ และเรียกชื่อแมว ในขณะเดียวกัน คุณควรประเมินปฏิกิริยาของลูกแมวและการเคลื่อนไหวของหู ซึ่งโดยปกติจะเป็นไปตามทิศทางของเสียงที่เปล่งออกมา หากมีข้อสงสัยว่าสัตว์ตัวนั้นหูหนวก ให้ปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อทำการตรวจอย่างอื่น

โปรดจำไว้ว่าแมวหูหนวกต้องการการดูแลเป็นพิเศษ เขาไม่ควรเข้าถึงถนน เพราะเขาเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ และพวกเขายังต้องการการสื่อสารที่ง่ายดายกับครอบครัว การแสดงท่าทางและการแสดงออกทางสีหน้าช่วยได้มากในเรื่องนี้ ทำให้สัตว์ "เรียนรู้" ว่าผู้สอนหมายถึงอะไรด้วยพฤติกรรมบางอย่างโดยไม่จำเป็นต้องพูด

การดูแลที่จำเป็นสำหรับแมวที่มีภาวะ heterochromia มีอะไรบ้าง

หลายคนคิดว่าแมวที่มีตาสองสีต้องการการดูแลเป็นพิเศษ แต่นั่นไม่ใช่เลย โดยทั่วไปแล้วสัตว์เลี้ยงเหล่านี้ค่อนข้างมีสุขภาพที่ดีและไม่ต้องการการดูแลเอาใจใส่มากนักหรืออะไรทำนองนั้น ในความเป็นจริงแล้ว พวกเขาจะมีความต้องการเช่นเดียวกับแมวตัวอื่นๆ คือ อาหารที่ดี แหล่งน้ำสำหรับแมว การกระตุ้นทางร่างกายและจิตใจ การปรึกษาสัตวแพทย์เป็นประจำ (ทั้งเพื่อการตรวจสุขภาพและการเพิ่มปริมาณวัคซีน) และการดูแลสุขอนามัย (เช่น การตัดขน กรงเล็บของแมว ทำความสะอาดหู และเพื่อแปรงฟัน) โอ้ และแน่นอน คุณจะพลาดความรักและความเสน่หามากมายไม่ได้เช่นกัน!

สิ่งที่ต้องการการดูแลเอาใจใส่ที่มากขึ้นก็คือเมื่อแมวที่มีภาวะ heterochromia พัฒนาไปตลอดชีวิต เพราะอย่างที่เราได้เห็น สามารถบ่งบอกถึงปัญหาหรือโรคทางสายตาได้ หากเป็นกรณีนี้ จำเป็นต้องปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อพยายามฟื้นการมองเห็นของผู้ป่วยหรืออย่างน้อยก็ชะลอการลุกลามของอาการ ซึ่งอาจทำให้แมวตาบอดได้ เป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การจดจำว่าควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาด้วยตนเองทุกประเภท และกระบวนการทั้งหมดควรได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญในหัวข้อนี้