คุณสามารถให้ยาแก้แพ้แก่สุนัขได้หรือไม่? นี่เป็นคำถามที่พบบ่อยมากในหมู่ผู้เลี้ยงสัตว์เลี้ยง ส่วนใหญ่เป็นเพราะปฏิกิริยาการแพ้เกิดขึ้นเมื่อคุณคาดไม่ถึงและอาจส่งผลต่อสุนัขที่มีอายุต่างกัน สุนัขที่เป็นโรคภูมิแพ้ผิวหนังจำเป็นต้องได้รับการรักษาที่เหมาะสม แต่สัตวแพทย์ที่เชื่อถือได้เท่านั้นที่สามารถระบุได้ โดยทั่วไป ยาแก้แพ้สำหรับสัตว์เลี้ยงเป็นทางเลือกที่สามารถพิจารณาได้ ตราบใดที่มีการติดตามผลอย่างเหมาะสม ข้อสงสัยเกี่ยวกับเวลาในการใช้งาน กรณีที่แนะนำให้ใช้ยา และสุนัขตัวใดที่สามารถป้องกันอาการแพ้ได้นั้นเป็นเรื่องปกติมาก เราจึงได้รวบรวมข้อมูลหลักในหัวข้อด้านล่างนี้ ดูสิ!

ยาแก้แพ้สำหรับสุนัขทำงานอย่างไร

ยาแก้แพ้สุนัข - หรือที่รู้จักในชื่อยาแก้แพ้ - เป็นยาที่มีหน้าที่รักษาและมีอาการแพ้ของ ร่างกายของสุนัข ในทางปฏิบัติ ยาเหล่านี้ทำหน้าที่ยับยั้งและขัดขวางการทำงานของฮีสตามีน ซึ่งเป็นสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพของระบบภูมิคุ้มกันที่หลั่งออกมาในระหว่างกระบวนการแพ้ หน้าที่ของฮีสตามีนโดยทั่วไปคือการทำลายเซลล์แปลกปลอมที่บุกรุกร่างกายของสัตว์ ทำหน้าที่ในการป้องกันสิ่งมีชีวิต เป็นผลให้สุนัขเป็นโรคภูมิแพ้และอาจมีอาการต่าง ๆ ที่เชื่อมโยงกับมัน ในทางกลับกัน ยาแก้แพ้สำหรับสุนัขพยายามลดผลกระทบที่เกิดจากฮีสตามีนและปรับปรุงความเป็นอยู่ที่ดีของสัตว์เลี้ยง

ควรจำไว้ว่าปริมาณยาต้านการแพ้สำหรับสุนัขจะขึ้นอยู่กับการประเมินของสัตวแพทย์เป็นหลัก ซึ่งจะเป็นผู้ตรวจสอบความร้ายแรงของสถานการณ์ สิ่งสำคัญคือต้องชี้ให้เห็นว่าคุณไม่สามารถให้ยาแก้แพ้กับคนกับสุนัขได้ แม้ว่าความตั้งใจจะช่วยคุณ แต่สิ่งนี้อาจลงเอยด้วยการทำร้ายสุขภาพของสัตว์มากยิ่งขึ้น

ยาแก้แพ้: สุนัขสามารถรักษาด้วยยาในสถานการณ์ต่างๆ ได้

ในกรณีของสุนัข สำหรับโรคภูมิแพ้ สัตวแพทย์จะทำการประเมินเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของปัญหา จากนั้นจึงสั่งจ่ายยาแก้แพ้ในอุดมคติสำหรับสุนัข ก่อนที่จะพาเขาไปพบแพทย์ คุณควรเขียนรายการทุกอย่างที่สุนัขกินหรือสัมผัสด้วยเมื่อเร็วๆ นี้ สิ่งนี้จะช่วยระบุแหล่งที่มาของปัญหา ด้านล่างนี้คือบางสถานการณ์ที่มีการระบุสารต่อต้านการแพ้ในสัตว์เลี้ยง:

1) โรคผิวหนังภูมิแพ้ในสุนัขสามารถมีได้ด้วยสารต่อต้านการแพ้ในสุนัข

จากแหล่งกำเนิดทางพันธุกรรม โรคผิวหนังภูมิแพ้ในสุนัขจะถูกกระตุ้นโดยการสัมผัสโดยตรงกับควัน , ฝุ่นละออง เกสรดอกไม้ และตัวไร Atopy ทำให้ผิวแห้งอย่างรุนแรงซึ่งอาจพัฒนาเป็นแผลได้หากไม่ได้รับการดูแลตั้งแต่ต้น ในกรณีนั้น วิธีที่ดีที่สุดในการรักษาคือการใช้ยาต้านการแพ้จากสัตวแพทย์ ซึ่งควรสั่งจ่ายหลังจากการวินิจฉัยได้รับการยืนยันแล้ว มีปัญหายังไงที่ไม่มียารักษา จะต้องติดตามผลไปตลอดชีวิตของสัตว์

2) Canine pyoderma: ยาปฏิชีวนะและยาแก้แพ้สัตว์เลี้ยงเป็นรูปแบบการรักษาที่ดีที่สุด

สุนัข pyoderma เป็นเชื้อแบคทีเรียที่พบบ่อยมาก ยาแก้แพ้สำหรับสุนัขเป็นส่วนหนึ่งของการรักษา และในบางกรณีจะมีการระบุการใช้ยาปฏิชีวนะด้วย หากลูกสุนัขของคุณเกาตัวเองบ่อยๆ คุณควรคอยสังเกตให้ดี สัตว์ส่วนใหญ่มักจะมีอาการคันเป็นอาการหลักอย่างหนึ่ง แต่อาการอื่นๆ ก็สามารถสังเกตเห็นได้เช่นกัน เช่น ลักษณะของก้อนเนื้อและก้อนหนองในสัตว์ ขนร่วงอาจเกิดขึ้นได้

3) การแพ้อาหารในสุนัขอาจต้องใช้ยาแก้แพ้จากสัตวแพทย์

สุนัขยังสามารถเป็นโรคภูมิแพ้ได้ ต่ออาหารบางชนิด ได้แก่ เนื้อวัว ถั่วเหลือง ข้าวโพด และข้าวสาลี ซึ่งเป็นส่วนผสมที่มีอยู่ในอาหารสัตว์เชิงพาณิชย์ส่วนใหญ่ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องใส่ใจกับส่วนประกอบของอาหารของเพื่อนของคุณ และเปลี่ยนมันหากเขาแสดงอาการแพ้ ในกรณีดังกล่าว อาการอาเจียน ท้องร่วง คัน ระคายเคืองผิวหนัง และปวดในลำไส้ อาจบ่งชี้ว่ามีบางอย่างไม่สู้ดีกับสัตว์เลี้ยงของคุณ สำหรับการรักษา คุณสามารถให้ยารักษาโรคภูมิแพ้สุนัขเพื่อบรรเทาอาการได้หากสัตวแพทย์ระบุ

4) สุนัขสามารถกินยาแก้แพ้เพื่อรักษาอาการแพ้ได้หมัด

ผู้สอนหลายคนไม่ทราบ แต่การกระทำของหมัดและเห็บที่น่ากลัวสามารถกระตุ้นให้เกิดอาการแพ้ในสุนัขได้ ซึ่งจำเป็นต้องใช้ยาแก้แพ้จากสัตวแพทย์เพื่อทำให้พวกมันนิ่มลง ปัญหาใหญ่อยู่ที่น้ำลายของปรสิตเหล่านี้ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะระคายเคืองผิวของเพื่อนคุณ นำไปสู่อาการคันอย่างรุนแรง สุนัขที่มีอาการนี้ถึงกับมีนิสัยชอบเลียและถูไปมาตามพื้นผิวต่างๆ เนื่องจากความรำคาญที่เกิดจากอาการแพ้ ในกรณีนั้น การรักษาที่ดีที่สุดวิธีหนึ่งคือการให้ยาต้านอาการแพ้ในสุนัข แต่จำไว้ว่าคุณต้องพาสัตว์เลี้ยงไปหาสัตว์แพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยที่ถูกต้อง จากนั้นจึงเริ่มการรักษาด้วยขนาดที่เหมาะสม

ยาแก้แพ้สำหรับสุนัขง่วงนอนหรือไม่? ดูปฏิกิริยาบางอย่างที่พบบ่อย

เช่นเดียวกับมนุษย์ สุนัขก็สามารถมีปฏิกิริยาบางอย่างต่อสัตว์เลี้ยงที่แพ้ภูมิแพ้ได้เช่นกัน ทั้งยาแก้แพ้สุนัขและยาฉีดมักจะทำให้คุณง่วง ดังนั้นเป็นเรื่องปกติที่เพื่อนตัวน้อยของคุณจะใช้เวลาสองสามชั่วโมงในการนอนหลับหรือรู้สึกขี้เกียจหลังจากให้ยา ในทางกลับกัน สิ่งสำคัญคือต้องระวังการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ในร่างกายของสุนัขที่อาจเกิดจากการใช้ยาแก้แพ้สำหรับสุนัขอย่างไม่ถูกต้อง เช่น การเปลี่ยนแปลงของระบบทางเดินอาหารหรืออาการคันที่แย่ลง ในกรณีของยาแก้แพ้สำหรับลูกสุนัข สิ่งสำคัญคือต้องตรวจสอบว่ายามีข้อห้ามสำหรับอายุของสัตว์และสาเหตุของมัน

ยาแก้แพ้: สุนัขต้องการการดูแลเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา

ก่อนถามตัวเองว่า "ฉันให้ยาแก้แพ้กับสุนัขได้ไหม" อย่าลืมว่าการป้องกันเป็นยาที่ดีที่สุดเสมอ การลงทุนซื้อโทสะที่ถูกสุขลักษณะเป็นหนึ่งในนั้น ด้วยวิธีนี้ คุณจะป้องกันปรสิตไม่ให้เข้าไปอยู่ในร่างกายของสัตว์และทำให้ผิวหนังระคายเคืองได้ การหลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์เลี้ยงของคุณกับแมลง เช่น ผึ้งและมด ก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน นอกจากนี้ สิ่งสำคัญคือต้องรักษาอาหารที่ดีต่อสุขภาพและสมดุล เคารพข้อจำกัดของลูกสุนัข และจำไว้ว่าปกติแล้วอาหารของมนุษย์ไม่แนะนำสำหรับเขา

หากคุณสังเกตเห็นว่าสุนัขของคุณเกามากกว่าปกติหรือมีผิวหนังแดงและระคายเคือง โปรดติดต่อผู้เชี่ยวชาญเพื่อดูว่าคุณสามารถให้ยาแก้แพ้ชนิดใดกับสุนัขของคุณได้