คุณเคยได้ยินเกี่ยวกับยาถ่ายพยาธิสำหรับสุนัขอย่างแน่นอน แต่คุณรู้หรือไม่ว่ามันมีไว้เพื่ออะไร? ผู้ที่มีสัตว์เลี้ยงจำเป็นต้องใส่ใจกับข้อควรระวังต่างๆ เพื่อรักษาสุขภาพสัตว์เลี้ยงของตนให้ทันสมัยอยู่เสมอ และการใช้ยานี้ในเวลาที่เหมาะสมก็เป็นหนึ่งในมาตรการที่จำเป็นสำหรับการปกป้องสัตว์เลี้ยง ตามชื่อที่ระบุอยู่แล้ว ยานี้ป้องกันโรคที่เกิดจากเวิร์ม เช่น Dirofilaria immitis , Toxocara canis และ Giárdia sp อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อสงสัยมากมายเกี่ยวกับปริมาณ vermifuge ในอุดมคติสำหรับลูกสุนัข ช่วงเวลาของการใช้ และควรให้วัคซีนก่อนหรือหลังวัคซีนหรือไม่ เพื่อไม่ให้ประสิทธิภาพของวัคซีนลดลง เพื่อให้เข้าใจประเด็นเหล่านี้และปัญหาอื่นๆ เกี่ยวกับการถ่ายพยาธิในสุนัขได้ดีขึ้น โปรดอยู่กับเราและอ่านบทความพร้อมคำแนะนำจากสัตวแพทย์ Marcela Nauman:

การถ่ายพยาธิสำหรับสุนัข: เรียนรู้เกี่ยวกับโรคหลักๆ ที่ยาป้องกัน

ไม่น่าแปลกใจที่จะมีการแนะนำให้ถ่ายพยาธิแก่ลูกสุนัขในวันแรกของชีวิต เช่นเดียวกับวัคซีน การรักษานี้ขาดไม่ได้ในการป้องกันสัตว์เลี้ยงจากโรคต่างๆ ในกรณีนี้ เกิดจากพยาธิ ภาวะแทรกซ้อนหลัก 3 ประการที่หลีกเลี่ยงจากการใช้ยา ได้แก่

1 - Giardia: เกิดจากโปรโตซัวในสกุล Giardia เชื้อ Giardiasis คือการติดเชื้อที่มีอาการตามมา เช่น ปวดท้อง ท้องเสีย หรืออุจจาระเหลวมีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์มาก ในสุนัขโตอาจระบุอาการได้ยากขึ้น

2 - พยาธิหนอนหัวใจ : โรคยอดนิยมที่เรียกว่าพยาธิหนอนหัวใจ พยาธิหนอนหัวใจสุนัขเกิดจากพยาธิ Dirofilaria immiti อาการต่างๆ ซึ่งมักปรากฏในระยะลุกลามเท่านั้น ได้แก่ อาการไอเรื้อรัง หัวใจล้มเหลว หายใจลำบาก น้ำหนักลด และอ่อนเพลีย

3 - Toxocara canis : แม้จะมีอาการเล็กน้อย เช่น ท้องร่วง และท้องอืดอาจทำให้สัตว์ถึงแก่ชีวิตได้หากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม มันเกิดจากไส้เดือนฝอย toxocara canis

4 - Cutaneous larvamigrans : รู้จักกันในนามของแมลงทางภูมิศาสตร์ หนอนชนิดนี้สร้างรอยโรคบนผิวหนังของสุนัขราวกับว่ามันกำลังวาดแผนที่ - ซึ่งเป็นเหตุผลว่า ชื่อที่เป็นที่นิยม นอกจากนี้ยังทำให้เกิดผื่นแดง คันมาก และทำลายลำไส้

ยาถ่ายพยาธิสำหรับลูกสุนัข: ฉีดกี่โดส? ก่อนหรือหลังการฉีดวัคซีน

อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้ว การใช้ยาถ่ายพยาธิในวันแรกของชีวิตสัตว์เลี้ยงเป็นสิ่งสำคัญ! ตามคำบอกเล่าของสัตวแพทย์ Marcela Nauman การถ่ายพยาธิสามารถเริ่มต้นได้ตั้งแต่อายุ 15 วัน โดยแบ่งเป็น 3 ปริมาณเพื่อไม่ให้สัตว์ที่มีพยาธิอุดตันในลำไส้ “ฉันมักจะทำในปริมาณปานกลาง ซึ่งจะเป็น 75% ในวันแรก; 85% ในวันที่สอง และ 100% ในสาม 15 วันต่อมา รผู้คนให้ยาเพิ่มขนาด - และใช่ ถ้าอุจจาระเป็นปกติในช่วงสามวันนี้ ฉันจะจ่ายเต็มขนาดทันที” เขาชี้แจง และสำหรับผู้ที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับความจำเป็นในการรับประทานยาซ้ำหลังจากผ่านไป 15 วัน ผู้เชี่ยวชาญจะอธิบายว่าทำไม: "คุณต้องทำสิ่งนี้เพื่อปิดวงจรของปรสิต เราสามารถกำจัดปรสิตได้ก็ต่อเมื่อมันเข้าสู่ระยะโตเต็มวัยเท่านั้น ดังนั้น ตามปกติแล้ว เราจะดำเนินการด้วยวิธีนั้น”

ตรงกันข้ามกับสิ่งที่หลายคนคิด ยาสำหรับเวิร์มไม่ได้ลดประสิทธิภาพของวัคซีน ในความเป็นจริงมันยังช่วยให้สัตว์มีสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งขึ้นและเตรียมพร้อมที่จะดูดซับการป้องกันที่เหมาะสมที่มาพร้อมกับมัน ดังนั้น เคล็ดลับสำคัญคือไม่ควรถ่ายพยาธิให้ลูกสุนัขหลังจากฉีดวัคซีนแล้วเท่านั้น คุณสามารถทำทั้งสองอย่างในวันเดียวกันได้หากต้องการ (และหากคุณไม่ได้ใช้ยาถ่ายพยาธิใน 15 วันแรกของชีวิต เนื่องจากวัคซีนสามารถให้หลังจาก 45 วันเท่านั้น) ไม่แนะนำให้เลื่อนการใช้ยาถ่ายพยาธิออกไปเพราะจำเป็นต่อการรักษาสุขภาพของลูกสุนัขให้ทันสมัยอยู่เสมอ

ฉันควรให้ยาถ่ายพยาธิบ่อยแค่ไหนสำหรับ สุนัขโตเต็มวัย?

หลังจากใช้ยาถ่ายพยาธิกับลูกสุนัขแล้ว เจ้าของหลายคนมักลืมใช้ยาต่อไปตลอดชีวิตของสัตว์เลี้ยง อย่างไรก็ตามเนื่องจากเวิร์มเป็นปรสิตที่ยังคงเดินเตร่อยู่สภาพแวดล้อม สิ่งสำคัญคือต้องรักษาความถี่ที่ถูกต้องเพื่อให้สุขภาพสัตว์เลี้ยงของคุณไม่เสียหาย สัตวแพทย์บอกว่า ทางที่ดีควรให้ยาถ่ายพยาธิเว้นช่วง 30 วันไปจนอายุ 6 เดือน จากนั้น เมื่อสุนัขโตเต็มวัยแล้ว สิ่งสำคัญคือต้องประเมินกิจวัตรของสัตว์เพื่อกำหนดกิจวัตรการใช้ยา “โดยปกติแล้ว เราใช้เวอร์มิฟิวจ์ตามการสัมผัสของสัตว์สู่สิ่งแวดล้อมและปรสิตที่อาจมีอยู่ที่นั่น หากเขาเข้าถึงวัชพืช ดิน ซากสัตว์อื่นๆ ได้มาก มีนิสัยชอบกลิ่นอุจจาระและไปศูนย์ดูแลเด็ก เขาจำเป็นต้องถ่ายพยาธิภายในระยะเวลาประมาณ 3 เดือน” เขาชี้ให้เห็น

ในทางกลับกัน หากสุนัขไม่ค่อยได้ออกไปข้างนอก แทบไม่ได้สัมผัสกับสัตว์อื่นเลย ไม่ได้อาศัยอยู่ในภูมิภาคที่มีโรคประจำถิ่นและดื่มน้ำกรอง ช่วงเวลานี้สามารถเป็นได้ทุกๆ 6 เดือนหรือปีละครั้ง “แต่แม้ในช่วงเวลาที่ยาวนานกว่านี้ สิ่งสำคัญคือต้องปิดวงจร: รับประทานยาและทำซ้ำในอีก 15 วันต่อมา” Marcela เน้นย้ำ

เมื่อพิจารณาทั้งหมดนี้ ผู้ที่จะกำหนดความถี่ที่ถูกต้องและดีที่สุด vermifuge คือสัตว์แพทย์ที่มาพร้อมกับสัตว์เลี้ยงของคุณ - เช่นเดียวกับปริมาณที่เหมาะสม โดยพิจารณาจากน้ำหนักของสัตว์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ สิ่งสำคัญคือต้องติดตามผลอย่างเหมาะสมกับผู้เชี่ยวชาญ เพราะทั้งขนาดที่ต่ำและขนาดที่เกินขนาดอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่อสุขภาพของสุนัขได้ และนั่นมันเป็นทุกอย่างที่คุณไม่ต้องการใช่ไหม

ข้อสำคัญ: หากสัตว์เลี้ยงของคุณแสดงปัญหาสุขภาพใดๆ เมื่อถึงเวลาถ่ายพยาธิชุดใหม่ อย่าให้ยาถ่ายพยาธิชุดใหม่ก่อนกำหนด เฟรมมีความเสถียร “เช่น ถ้าสัตว์มีโรคตับ และคุณเริ่มใช้ยา คุณสามารถประนีประนอมการทำงานของตับเกินกว่าที่เป็นอยู่ได้ ดังนั้น หากสัตว์เลี้ยงมีอาการไม่สบายตัว อาจไม่ใช่เวลาที่ดีที่จะเริ่มใช้ยาป้องกัน อุดมคติคือการรอให้มันคงที่และหลังจากนั้นให้สถาบันบำบัดเพื่อป้องกันเวิร์ม” สัตวแพทย์ Marcela อธิบาย การให้ยา

หากสุนัขของคุณมีปัญหาในการรับยา เวอร์มิฟิวจ์! เคล็ดลับที่ได้ผลคือการซ่อนเม็ดยาไว้ในขนมหรือตรงกลางของอาหาร แต่ถ้าเขาฉลาดและรู้ว่ามีบางอย่างที่แตกต่างออกไปในอาหาร วิธีแก้ไขอีกวิธีหนึ่งคือการเจือจางยาในน้ำและจัดหากระบอกฉีดยาเพื่อใช้เป็นหยด

มันก็คุ้มค่าที่จะจับสุนัขและ วางยาไว้ใกล้กับคอของเขามาก ๆ เพื่อให้เขาสามารถกลืนได้ - แต่ในสถานการณ์เช่นนี้ สิ่งสำคัญคือต้องระมัดระวังไม่ให้เขาเครียดและกัดคุณ อย่างไรก็ตาม สำหรับ Marcela การให้สิ่งกระตุ้นเชิงบวกอาจเพียงพอที่จะทำให้เธอสมหวังภารกิจโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากวิธีการรักษาที่เป็นปัญหามีรสชาติพิเศษที่จะทำให้ชีวิตง่ายขึ้นสำหรับผู้สอน “เคล็ดลับที่ฉันให้เสมอคือการเล่นล่วงหน้า เมื่อถึงเวลาเสนอสินค้าให้เขย่ากล่องให้ดีราวกับว่ามันเป็นของเด็ดที่เขากำลังจะชนะ ทำน้ำเสียงห่วงใยและพูดว่า 'ว้าว ดูนั่นสิ!' อย่างไรก็ตาม ให้กระตุ้นสุนัขในเชิงบวกก่อนที่จะเปิดยาที่มีโอกาสได้ผลสูง” เขาระบุ ผลข้างเคียงบางอย่างหลังจากใช้ vermifuge เช่น น้ำลายไหลมากเกินไป ไม่แยแส คลื่นไส้ อาเจียน และท้องร่วง หากเขามีปฏิกิริยาใด ๆ กับส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ อาจเกิดอาการแพ้และแม้แต่เป็นไข้ได้ และในกรณีที่รุนแรงและพบไม่บ่อย เช่น การมึนเมา การด้อยค่าของการทำงานของร่างกาย

แต่ Marcela กล่าวว่า เป็นไปได้ที่จะหลีกเลี่ยงปัญหาเหล่านี้ได้โดยใช้มาตรการป้องกันเฉพาะบางอย่าง “นอกจากการดูว่าสัตว์มีสุขภาพดีพอที่จะรับ vermifuge ได้แล้ว คุณต้องเคารพในแผ่นพับบรรจุภัณฑ์และสายพันธุ์ด้วย นั่นคือหากผลิตภัณฑ์มุ่งเป้าไปที่สุนัข จะต้องได้รับความเคารพ ถ้ามันมุ่งไปที่แมว มันจะต้องได้รับการเคารพ ถ้าสำหรับสุนัขและแมวก็โอเค แต่ทุกอย่างต้องทำอย่างมีหลักเกณฑ์” เขาส่งสัญญาณ ยิ่งไปกว่านั้น เธอยังให้เคล็ดลับในการดูเอกสารกำกับยาเสมอเพื่อตรวจสอบว่ามีหลักการใดในส่วนประกอบหรือไม่ออกฤทธิ์ที่สัตวแพทย์ระบุว่าเป็นอันตรายต่อสัตว์