อาการไอของสุนัขอาจเกิดขึ้นได้หลายวิธีและมีสาเหตุต่างกัน แต่อาการไอทุกประเภทจำเป็นต้องได้รับการตรวจสอบ ในกรณีของสุนัขที่มีอาการไอแห้งๆ ผู้สอนจำเป็นต้องตรวจสอบว่ามีปัจจัยภายนอก เช่น สภาพอากาศหรืออาหารบางอย่างที่อาจมีส่วนทำให้สุนัขไอหรือไม่ อาการไอของสุนัขยังสามารถบ่งชี้ว่ามีโรคร้ายแรงบางอย่างที่เป็นอันตรายต่อร่างกายของสัตว์ นี่คือสิ่งที่ต้องทำเมื่อสุนัขของคุณไอแห้งๆ!

สุนัขที่มีอาการไอ: ค้นหาสาเหตุของอาการ

สาเหตุหลายประการที่ทำให้สุนัขไอ ตั้งแต่ปัญหาสิ่งแวดล้อมไปจนถึงปัญหาสุขภาพ อาการเจ็บป่วยของสุนัขบางชนิดพบได้บ่อยในฤดูหนาว และส่วนใหญ่จะมีอาการไอและจามร่วมด้วย แต่สุนัขไอเป็นปัญหาร้ายแรงหรือไม่? ไม่เสมอ. เป็นเรื่องปกติมากที่จะเห็นสุนัขไอหลังจากดื่มน้ำ และมักจะสำลักเล็กน้อยเนื่องจากสุนัขกระหายน้ำมากจริงๆ! ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเขาไม่ได้ดื่มน้ำเร็วเกินไป เนื่องจากจะทำให้สำลักและทำให้ไอได้

อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ไอแห้งๆ คืออาการแพ้บางประเภท: ส่วนประกอบของอาหารสัตว์ ละอองเกสร เชื้อรา และแม้แต่ผลิตภัณฑ์ จากการทำความสะอาดบ้านที่กระตุ้นให้สุนัขเกิดอาการแพ้และทำให้สัตว์เลี้ยงมีอาการไอ อย่างไรก็ตาม อาการไอร่วมกับอาการอื่นๆ และพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของสัตว์เลี้ยงเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ ดังนั้นจึงเป็นการดีที่จะให้ให้ความสนใจกับพฤติกรรมของสัตว์ เนื่องจากการเจ็บป่วยที่รุนแรงใดๆ ก็ตามมาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงในทางของสัตว์เลี้ยง เช่น ไม่แยแส ขาดความอยากอาหาร และง่วงนอนมากเกินไป เป็นต้น

อาการไอสุนัข: โรคที่พบได้บ่อยที่สุด

“อาการไอสุนัข” เป็นสำนวนที่ใช้อธิบายถึงอาการไอหนักๆ และมีเสียงดังซึ่งเต็มไปด้วยสารคัดหลั่ง แต่อาการไอในสุนัขซึ่งเป็นโรคที่พบได้บ่อยในสุนัข อาการไอแห้งเป็นอาการหลัก และมักมีอาการเบื่ออาหาร น้ำมูกไหล จาม และอาจมีไข้ร่วมด้วย มีโรคอื่นที่มีอาการไอแห้งซึ่งพบได้บ่อยและแม้แต่ดูแลง่าย แต่หากไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม ก็จะเกิดผลตามมาและส่งผลร้ายแรงมาก นั่นคือ เชื้อพาราอินฟลูเอนซาในสุนัข มันทำให้เกิดอาการคล้ายไข้หวัดและจำเป็นต้องให้ความสนใจเพื่อไม่ให้กลายเป็นหลอดลมอักเสบเฉียบพลันที่จำกัด โรคนี้ยังทำให้ภูมิคุ้มกันของสุนัขลดลง ทำให้มีแนวโน้มที่จะเป็นโรคทางเดินหายใจร้ายแรงอื่นๆ เช่น โรคปอดบวมและโรคเรื้อรังอื่นๆ เช่น โรคกล่องเสียงอักเสบและโรคจมูกอักเสบในสุนัข

โรคหัวใจในสุนัขเป็นโรคหัวใจที่ร้ายแรงและเป็นหนึ่งใน อาการของเธอยังเป็นไอสุนัข เธอยังทำให้อ่อนเพลีย หายใจถี่ ปล่อยให้สุนัขไม่กินอาหาร ทำให้อาเจียน และถึงกับเป็นลม ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะต้นตอของโรคคือหัวใจดวงน้อยๆ ของสุนัขที่มีการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง ไม่ว่าจะเป็นความอ่อนแอเนื่องจากการอยู่นิ่งๆ หรือโรคอ้วน ทีนี้เมื่อมีอาการไอดื้อรั้น แต่สุนัขไม่เปลี่ยนพฤติกรรมและยังคงกระฉับกระเฉงและขี้เล่น นี่คือสัญญาณของโรคหลอดลมอักเสบในสุนัข ซึ่งอาการจะคล้ายกับโรคหลอดลมอักเสบในมนุษย์มาก นั่นคือ หายใจลำบาก มีไข้ อ่อนเพลีย และเบื่ออาหาร อาการทั้งหมดนี้มีวิธีการรักษาเฉพาะสำหรับแต่ละอาการ และจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือจากสัตวแพทย์ ดู

จะทำอย่างไรเมื่อสุนัขมีอาการไอแห้งๆ?

ขั้นตอนแรกคือการไปหาสัตว์แพทย์ ที่ผู้เชี่ยวชาญนี้ตรวจสอบสาเหตุของการไอและปิดการวินิจฉัยโรคสุนัข แต่ในกรณีที่ไม่รุนแรงก็สามารถรักษาที่บ้านได้ ตัวอย่างเช่น เมื่ออากาศหนาวมาถึง เป็นเรื่องดีที่จะปฏิบัติตามคำแนะนำในฤดูหนาวกับสุนัขเพื่อหลีกเลี่ยงไข้หวัดสุนัข กล่าวคือ รักษาร่างกายให้อบอุ่น ดื่มน้ำเพียงพอ และฉีดวัคซีนให้ทันสมัยอยู่เสมอ หากจำเป็น ให้พ่นฝอยละออง การหลีกเลี่ยงการเดินก็มีความสำคัญเช่นกัน เพื่อที่เขาจะไม่สามารถเข้าถึงลมหนาวในฤดูหนาวและรักษาร่างกายให้อบอุ่นได้

ตอนนี้ หากสาเหตุคือการสำลัก ผู้สอนถามตนเองว่า: “สุนัขของฉันมีอาการไอแห้งๆ ดูเหมือนว่าจะสำลัก ฉันจะช่วยเขาได้อย่างไร” สิ่งที่ต้องทำในสถานการณ์สำลักนั้นง่ายมาก: อุ้มสุนัขจากด้านหลังแล้วกอดเขา กดซี่โครงของเขาเบาๆ กอดและบีบไปเรื่อยๆ จนกว่าวัตถุที่กีดขวางทางเดินหายใจของสุนัขจะหลุดออกมา

ควรจำไว้ว่าสุนัขบางสายพันธุ์สัตว์ที่มีสมองฝ่อ เช่น ปั๊ก ชิสุ และเฟรนช์บูลด็อก มีแนวโน้มที่จะมีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจหลายอย่าง แต่สุนัขทุกตัวไม่ว่าจะสายพันธุ์ใดสามารถมีอาการไอแห้งได้ ดังนั้น ควรดูแลสุนัขของคุณให้ทันสมัยอยู่เสมอและหลีกเลี่ยงความไม่สบายใจ