ความอ่อนไหวของสุนัขเป็นหนึ่งในคุณธรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของสัตว์เหล่านี้ สุนัขสามารถตรวจพบโรคบางอย่าง เช่น มะเร็ง และยังสามารถรับรู้ได้เมื่อมีคนเศร้า เป็นต้น แต่สุนัขรู้สึกท้องหรือไม่? สิ่งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไรและพฤติกรรมของสุนัขเปลี่ยนไปอย่างไรเมื่อเจ้าของตั้งท้อง? มีข้อสงสัยมากมายที่แทรกซึมอยู่ในหัวข้อนี้และมีคำอธิบายเล็กน้อย เพื่อชี้แจงคำถามเหล่านี้ทุกครั้ง Paws of the House หาคำตอบบางอย่าง ลองดูสิ่งที่เราค้นพบ!

ท้ายที่สุด จริงหรือไม่ที่สุนัขทำนายการตั้งครรภ์

แม้ว่าจะยังไม่ได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ แต่ก็อาจกล่าวได้ว่าใช่: สุนัข สามารถรู้สึกถึงการตั้งครรภ์ได้ การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่เกิดขึ้นในร่างกายของหญิงมีครรภ์นั้นสามารถตรวจพบได้ง่ายโดยสุนัข ซึ่งรับรู้ถึงความแตกต่างของกลิ่นที่ครูฝึกหายใจออกมา (เป็นผลมาจากฮอร์โมนที่ผลิตในขั้นตอนนี้) นั่นเป็นเหตุผลที่หลายคนพูดติดตลกว่าสุนัขสัมผัสได้ถึงการตั้งครรภ์: ความไวในการดมกลิ่นของสุนัขทำให้พวกมันรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นท้องก่อนที่มันจะรู้ตัวด้วยซ้ำ

สุนัขยังสามารถสังเกตเห็นความแตกต่างในลักษณะที่ปรากฏของ ผู้หญิง เมื่อเวลาผ่านไป เช่น การเจริญเติบโตของท้องในระหว่างตั้งครรภ์ ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงในอารมณ์ของผู้สอนที่ตั้งครรภ์ นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงในกิจวัตรของครอบครัวจะไม่ถูกมองข้ามโดยสัตว์: สุนัขอาจเข้าใจทุกอย่างที่เกิดขึ้นได้ไม่ดีนัก แต่มันรู้ว่ามีบางอย่างที่แตกต่างกันในบ้าน

พฤติกรรมของสุนัขเมื่อเจ้าของตั้งท้องมีแนวโน้มที่จะปกป้องมากกว่า<3

สัญชาตญาณในการป้องกันของสุนัขจะรุนแรงขึ้นในช่วงที่ครูสอนพิเศษตั้งท้อง

พฤติกรรมของสุนัขเมื่อเจ้าของตั้งท้องเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง พวกเขามักจะอยู่ใกล้ติวเตอร์มากขึ้น ใช้ท่าทางป้องกันและติดตามเธออย่างเต็มที่เพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี ดังนั้นแม้ว่าสัตว์จะผูกพันกับคนอื่นในบ้านมากขึ้น มันจะใช้เวลากับหญิงมีครรภ์มากขึ้นในช่วงตั้งท้อง การย้ายไปรอบ ๆ บ้านและต้องการนอนด้วยกันเป็นปฏิกิริยาทั่วไปบางอย่าง นั่นคือปฏิกิริยาของสุนัขเมื่อเจ้าของตั้งท้องมักเกี่ยวข้องกับการดูแลและปกป้อง

การมาถึงของทารกจำเป็นต้องมีการปรับตัวในกิจวัตรของครอบครัว

สุนัขเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดที่คนเราสามารถขอได้ ในการตั้งครรภ์ สิ่งนี้จะยิ่งชัดเจนมากขึ้นเท่านั้น เมื่อเหล่าสุนัขทำทุกอย่างเพื่ออยู่ใกล้ๆ และดูแลความปลอดภัยของคุณแม่มือใหม่ แม้ว่าพวกเขาจะไม่เข้าใจเรื่องนี้ดีนักก็ตาม แต่สิ่งสำคัญคือต้องระลึกไว้เสมอว่าก่อนที่ทารกจะเกิด การปรับตัวบางอย่างในกิจวัตรประจำวันและในบ้านเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อแนะนำสมาชิกใหม่ของครอบครัวให้ลูกสุนัขรู้จัก กเด็กจะมีความสำคัญเป็นอันดับแรกอย่างชัดเจนเพราะมันต้องการความสนใจและการดูแลเอาใจใส่มากกว่า แต่สุนัขก็ไม่ควรถูกทอดทิ้งเช่นกัน เพราะจะทำให้เขาเศร้าและหดหู่ได้ เมื่อทารกโตขึ้น สิ่งสำคัญคือต้องส่งเสริมการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา ดูแลอย่างใกล้ชิดและด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง