พยาธิในลูกสุนัข: ดูสัญญาณที่พบบ่อยที่สุดว่าลูกสุนัขกำลังมีพยาธิ
สารบัญ
ลูกสุนัขมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคพยาธิได้ง่ายกว่ามาก นอกจากการปนเปื้อนที่เกิดขึ้นได้ง่ายจากการให้นมลูกแล้ว ลูกสุนัขยังคงพัฒนาระบบภูมิคุ้มกันและการทำงานต่างๆ ของร่างกาย นั่นเป็นเหตุผลที่ควรให้ยาถ่ายพยาธิเข็มแรกสำหรับลูกสุนัขเมื่ออายุได้ 30 วัน โดยให้ยากระตุ้นทุกเดือนจนถึง 6 เดือน เพื่อให้แน่ใจว่าสัตว์เลี้ยงมีสุขภาพแข็งแรง แต่คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าลูกสุนัขของคุณมีพยาธิ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณไม่สามารถเข้าถึงประวัติสุขภาพของมันได้ เพื่อช่วยคุณในเรื่องนี้ เราได้รวบรวมข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับสัญญาณที่พบบ่อยที่สุดของการปนเปื้อนพยาธิในลูกสุนัข
คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าลูกสุนัขของคุณมีพยาธิหรือไม่ อะไรคือสัญญาณที่พบบ่อยที่สุด
สิ่งแรกที่คุณควรมองหาคือสัตว์มีอาการแสดงว่ามีหนอนหรือไม่ สัญญาณที่พบบ่อยที่สุดของลูกสุนัขที่มีหนอนคือท้องร่วง อาเจียน น้ำหนักลด ขนหมองคล้ำ ท้องบวม ไอ ระคายเคืองผิวหนัง (ซึ่งอาจทำให้สัตว์ลากทวารหนักลงบนพื้น) และเหนื่อยล้า นอกจากนี้ สิ่งสำคัญคือต้องตรวจอุจจาระของลูกสุนัขบ่อยๆ เพื่อระบุว่ามีพยาธิหรือไม่ พยาธิมักมีขนาดเท่าเมล็ดข้าวและมีสีขาวหรือน้ำตาล หากสุนัขอาเจียน แนะนำให้ดูว่ามีปรสิตอยู่ในของเหลวที่ขับออกมาหรือไม่
ลูกสุนัขที่มีหนอน: อะไรต้องทำอย่างไร
การสังเกตสัญญาณของเวิร์มในลูกสุนัขอาจเป็นเรื่องสิ้นหวัง แต่ผู้สอนต้องใช้งานได้จริงและตระหนักในสถานการณ์เหล่านี้ ตามหลักการแล้ว ลูกสุนัขทุกตัวควรได้รับการแต่งตั้งจากสัตวแพทย์ในวันแรกของชีวิต นอกจากการตรวจสอบน้ำหนักและพัฒนาการของสัตว์แล้ว แพทย์จะสั่งยาถ่ายพยาธิที่ดีที่สุดเพื่อป้องกันพยาธิ การให้คำปรึกษาเป็นสิ่งสำคัญเช่นกันหากลูกสุนัขมีอาการว่ามีเวิร์มอยู่แล้ว เนื่องจากมีเวิร์มหลายประเภทซึ่งอาจต้องการการดูแลและยาที่เฉพาะเจาะจง
ดูสิ่งนี้ด้วย: แมวหางหัก: มันเกิดขึ้นได้อย่างไรและจะทำอย่างไร?หลังจากรักษาพยาธิในลูกสุนัขเสร็จแล้ว เจ้าของจำเป็นต้องให้ยาถ่ายพยาธิป้องกันต่อไป ซึ่งโดยทั่วไปจะให้เดือนละครั้งจนกว่าลูกสุนัขจะอายุหกเดือน
วิธีป้องกันพยาธิในลูกสุนัข
วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันพยาธิในลูกสุนัขคือการรับประทานยาป้องกันและไม่เลื่อนขนาดยา การรับเลี้ยงหรือซื้อสุนัขเป็นความสุขที่มาพร้อมกับความรับผิดชอบ (และค่าใช้จ่าย) มากมาย ดังนั้นการวางแผนการเงินจึงเป็นเรื่องสำคัญ การให้ยาถ่ายพยาธิล่าช้าสำหรับลูกสุนัขไม่ใช่ทัศนคติที่ปลอดภัย วิธีอื่นในการป้องกันปัญหาคือ ดูแลสุขภาพของแม่ลูกสุนัขในระหว่างตั้งท้อง รักษาสภาพแวดล้อมที่สัตว์อาศัยอยู่ให้สะอาดอยู่เสมอ และไม่พาลูกสุนัขออกไปเดินเล่นก่อนที่สัตวแพทย์จะปล่อยการออกจากบ้าน
