คุณคงเคยได้ยินโรคเลปโตสไปโรสิสใช่ไหม โรคนี้เป็นสาเหตุหลักประการหนึ่งที่ทำให้ประชากรเกิดความวิตกกังวล เนื่องจากสามารถส่งผลกระทบต่อทั้งสัตว์เลี้ยงและสัตว์ป่า รวมทั้งมนุษย์ อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องปกติมากที่จะได้ยินเกี่ยวกับโรคเลปโตสไปโรซีสในสุนัขมากกว่าในแมว ทำไมสิ่งนี้ถึงเกิดขึ้น? อุบัติการณ์ของโรคฉี่หนูในแมวเป็นอย่างไร? เป็นไปได้อย่างไรที่จะระบุโรคในลูกแมว? ดูทุกสิ่งที่เราค้นพบเกี่ยวกับโรคฉี่หนูในแมว!

โรคฉี่หนูในสัตว์: สิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับโรคนี้

สัตวแพทย์ Felipe Ramires จากเซาเปาโล กล่าวว่า โรคฉี่หนูเป็นโรคติดต่อจากสัตว์ที่สำคัญที่แพร่หลายไปทั่ว โลกที่เกิดจากแบคทีเรียชื่อ Leptospira โดยส่วนใหญ่ส่งผลต่อโค ม้า และสุกร แต่ก็อาจส่งผลต่อสุนัขและแมวได้เช่นกัน (กลุ่มหลังมีขอบเขตน้อยกว่า) “มีการศึกษาที่แสดงให้เห็นว่าแมวสามารถติดโรคเลปโตสไปโรซีสได้หากหนูที่ติดเชื้อกินเข้าไป” เขายกตัวอย่าง นอกจากนี้ การสัมผัสกับน้ำที่ปนเปื้อนปัสสาวะของสัตว์อื่นที่ติดเชื้อก็สามารถกระตุ้นให้เกิดโรคฉี่หนูได้เช่นกัน แต่ไม่ว่าในกรณีใด สิ่งสำคัญคือต้องเน้นย้ำว่า แม้ว่าแมวสามารถพัฒนาและแพร่โรคได้ แต่พวกมันไม่สามารถแพร่เชื้อได้ตามธรรมชาติ - มันมักจะแพร่เชื้อโดยสัตว์อื่น โดยส่วนใหญ่มาจากสัตว์ฟันแทะในใจกลางเมืองFelipe ชี้ให้เห็นว่าสิ่งสำคัญคือต้องระมัดระวังเป็นพิเศษกับสัตว์เลี้ยง เนื่องจากแมวสามารถแพร่เชื้อฉี่หนูสู่คนได้เช่นเดียวกับสุนัข

โรคฉี่หนูในแมว: อาการทางคลินิกที่พบบ่อยที่สุด

การระบุโรคเลปโตสไปโรซีสในแมวไม่ใช่เรื่องยาก อาการที่พบได้บ่อยในกรณีเหล่านี้คืออาเจียนและขาดน้ำ การขาดความอยากอาหาร มีไข้ และการเปลี่ยนแปลงของสีของเยื่อเมือกอาจเกิดขึ้นในช่วงแรก “เยื่อเมือกและผิวหนังเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ซึ่งเราเรียกว่าลิปเทอริเซีย” สัตวแพทย์อธิบาย หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับโรค (โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากสัตว์สัมผัสกับสัตว์ฟันแทะ น้ำท่วม หรือสิ่งปฏิกูลเมื่อเร็วๆ นี้) และขึ้นอยู่กับอาการทางคลินิก ผู้สอนควรขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญทันที สัตว์ที่ได้รับผลกระทบจากโรคเลปโตสไปโรซีสจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน เนื่องจากเป็นโรคที่อาจทำให้สัตว์ถึงแก่ชีวิตได้และยังมีความเสี่ยงต่อมนุษย์ด้วย

โรคเลปโตสไปโรซีส: แมวสามารถตายได้หากปล่อยไว้โดยไม่รักษา

ก่อนอื่น เจ้าของต้องจำไว้ว่าโรคฉี่หนูเป็นโรคที่ดำเนินไปอย่างรวดเร็วและอาจถึงแก่ชีวิตได้หากไม่รักษาอย่างทันท่วงที “สัตว์ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคนี้ ซึ่งมีอาการแสดงทางคลินิกของโรคเลปโตสไปโรซิส หรือที่มีการสัมผัสกับสัตว์อื่น (เช่น หนู เป็นต้น) หรือถูกน้ำท่วมอาจเสียชีวิตได้ภาวะไตเสื่อม” เฟลิเป้เตือน ดังนั้นหากคุณมีแมวที่เข้าได้กับสถานการณ์ข้างต้น คุณควรรีบพามันไปพบสัตวแพทย์เพื่อเริ่มการรักษาที่เหมาะสมที่สุด นอกจากนี้ หากคุณมีสัตว์เลี้ยงตัวอื่นที่บ้าน จำเป็นต้องแยกพวกมันออกจากแมวที่ติดเชื้อเพื่อหลีกเลี่ยงการแพร่เชื้อ

เรียนรู้วิธีป้องกันโรคฉี่หนูในแมว

สัตวแพทย์ Felipe ระบุว่า การป้องกันโรคฉี่หนูในแมวมีสาเหตุหลักมาจากสุขอนามัยของสถานที่ซึ่งสัตว์เหล่านี้อาศัยอยู่ สิ่งสำคัญคือต้องหลีกเลี่ยงการสะสมเศษหินหรืออิฐ ขยะ และสถานที่อื่นๆ ที่อาจมีสัตว์ฟันแทะ เนื่องจากแมวจะติดเชื้อจากการกินสัตว์ขนาดเล็กเหล่านี้เป็นหลัก “การดูแลแมวให้อยู่ในที่สะอาดอยู่เสมอ การป้องกันไม่ให้พวกมันกินสัตว์ฟันแทะหรือสัมผัสกับน้ำท่วมขังและสิ่งปฏิกูลคือรูปแบบการป้องกันหลัก”