หนึ่งในสายพันธุ์สุนัขยักษ์ที่มีชื่อเสียงที่สุดคือเกรทเดน ซึ่งรู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่าเกรทเดน เหตุผลง่ายๆ เลยก็คือ เป็นเผ่าพันธุ์เดียวกับสคูบี้ดูตัวการ์ตูนชื่อดังนั่นเอง แต่ความจริงก็คือสุนัขเกรทเดนไปไกลกว่าขนาดและรูปลักษณ์ที่แข็งแรง: มันเป็นเพื่อนสี่ขาที่ซื่อสัตย์ เชื่อง และน่ารัก หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสายพันธุ์ เราได้แยกทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับสุนัขเยอรมัน ได้แก่ บุคลิกภาพ ลักษณะทางกายภาพ การดูแลกิจวัตรประจำวันและสุขภาพของสัตว์ และอื่นๆ อีกมากมาย! ดูด้านล่าง

ที่มาของสุนัขพันธุ์เกรทเดน

เรื่องราวเบื้องหลังที่มาของสุนัขพันธุ์เกรทเดนทำให้เกิดข้อสงสัยมากมาย ตามชื่อที่แนะนำ เชื่อกันว่าสายพันธุ์นี้มีถิ่นกำเนิดในประเทศเยอรมนี แต่เนื่องจากมันมีชื่อสุนัขเดนมาร์กด้วย ความสับสนเกี่ยวกับประเทศต้นกำเนิดจึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างไรก็ตาม เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าสุนัขที่เรารู้จักในปัจจุบันได้รับการพัฒนาขึ้นในราวปี 1800 ในประเทศเยอรมันผ่านการผสมข้ามสายพันธุ์หลายสายพันธุ์ สายพันธุ์หลักคืออิงลิช มาสทิฟฟ์และไอริช วูลฟ์ฮาวด์ สร้างขึ้นในตอนแรกเพื่อใช้เป็นสุนัขล่าสัตว์ ขนาดของสุนัขพันธุ์ยักษ์นี้ทำให้สามารถล่าหมูป่าและสัตว์ขนาดใหญ่อื่นๆ ได้ อย่างไรก็ตาม "หน้าที่" นี้ได้สูญหายไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งไม่ได้ขัดขวางพวกเขาจากการเป็นเพื่อนที่ดีของสี่คนอุ้งเท้า

สุนัขเกรทเดน: ไม่ใช่แค่ขนาดเท่านั้นที่ดึงดูดความสนใจ

เป็นไปไม่ได้ที่สุนัขเกรทเดนจะไม่มีใครสังเกตเห็น ด้วยขนาดที่ใหญ่โตและร่างกายที่กำยำและแข็งแรง รูปร่างหน้าตาของมันก็ดูน่ากลัวอยู่ไม่น้อย เพื่อให้เข้าใจถึงความยิ่งใหญ่ของสุนัขตัวน้อยผู้ยิ่งใหญ่ตัวนี้ สุนัขเกรทเดนที่ใหญ่ที่สุดที่เคยเห็นในโลกมีความสูง 110 ซม. และหนัก 111 กก. และได้รับการจดทะเบียนใน Guinness World Records แต่โดยทั่วไปแล้ว สุนัขสายพันธุ์นี้มักมีขนาดระหว่าง 75 ถึง 80 ซม. และหนักระหว่าง 45 ถึง 60 กก. ด้วยขนสั้นหนาพวกเขาสามารถมีสีขนที่แตกต่างกัน แต่มักมีสีดำ - แม้ว่าจะเป็นเพียงจุด หนามยังเป็นเรื่องธรรมดา นอกจากนี้ กวาง ฟ้า และสีสรรค์ (มีจุดดำและขาว) ก็เป็นสีได้เช่นกัน

สุนัขเยอรมัน: สุนัขมีนิสัยเชื่องและเป็นมิตร

หนึ่งในข้อพิสูจน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดว่า ไม่ใช่เอกสารที่อยู่เบื้องหลังการปรากฏตัวของ Great Dane มีลูกสุนัขที่เชื่องและเต็มไปด้วยความรักที่จะมอบให้ แม้ว่าพวกเขาจะดูจริงจัง แต่จริงๆ แล้วพวกเขาเป็นลูกสุนัขที่มีพฤติกรรมแบบลูกสุนัข พวกเขาชอบเล่น กระโดด และมีปฏิสัมพันธ์กับผู้สอนเป็นอย่างมาก ความก้าวร้าว? พวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันคืออะไร! โดยทั่วไปแล้วสุนัขสายพันธุ์เยอรมันนั้นสงบและเงียบมาก มากจนแทบไม่เห่า - เฉพาะในสถานการณ์ที่เฉพาะเจาะจงมากเท่านั้น เมื่อพวกเขารู้สึกตื่นเต้นหรือต้องการดึงความสนใจของเจ้าของไปที่บางสิ่ง

สิ่งที่เกิดขึ้นได้ก็คือสุนัขเหล่านี้มักจะสงบเสงี่ยมและขี้อายเมื่ออยู่ใกล้คนแปลกหน้า แต่เชื่อหรือไม่ว่าท่ายากนี้อยู่ได้ไม่นาน พวกเขาจะถูกพิชิตได้ง่ายหากได้รับความสนใจและความรัก ซึ่งอาจทำให้สุนัข "งี่เง่า" ได้บ้าง

บุคลิกของเกรทเดนยังตรงกับลักษณะของสคูบี้ดู: นิสัยดี ใจดี และ ด้วยความไวที่เหลือเชื่อ สุนัขสายพันธุ์นี้มักจะเข้ากันได้ดีกับทุกคนและสัตว์อื่นๆ อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องดูแลการสัมผัสกับเด็กเล็ก เนื่องจากสุนัข Alemão ยังไม่ค่อยทราบขนาดของมันและค่อนข้างเงอะงะ ดังนั้นบางเกมอาจจบลงด้วยการทำร้ายโดยไม่ตั้งใจ

แต่ข้อดีอีกประการใน ทั้งหมดนี้ได้รับการฝึกฝนอย่างง่ายดายและเชื่อฟังเป็นอย่างดี ซึ่งทำให้กระบวนการฝึกฝนง่ายยิ่งขึ้นไปอีก แต่ควรสังเกตว่า ขอแนะนำให้ทั้งการฝึกและการเข้าสังคมกับลูกสุนัขเยอรมันด็อก ไม่ใช่โตเต็มวัย

การดูแลขั้นพื้นฐานสำหรับสุนัขสายพันธุ์เยอรมัน

- การอาบน้ำและการแปรงขน

ด้วยขนที่สั้น หนา เรียบและเงางาม Dogue สุนัขเยอรมันขนร่วงมากและจำเป็นต้องแปรงขนบ่อยๆ โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูใบไม้ผลิ ตามหลักการแล้วควรแปรงฟันที่อย่างน้อยสัปดาห์ละสามครั้งด้วยอุปกรณ์เสริมเฉพาะ (ถุงมือหรือแปรงขนสุนัข) ดังนั้นจึงเป็นไปได้ที่จะเอาเสื้อโค้ทที่ตายออกและรักษาสุขภาพของเพื่อนของคุณ

การอาบน้ำสุนัข Alemão ของคุณอาจเป็นเรื่องที่ท้าทาย แต่สิ่งสำคัญคือต้องทำอย่างน้อยเดือนละครั้ง เนื่องจากสุนัขพันธุ์มีขนาดใหญ่มากและอาจกระวนกระวายมากเมื่อสัมผัสกับน้ำ ผู้สอนสามารถมองหาร้านขายสัตว์เลี้ยงเพื่อดำเนินการดังกล่าวได้

- ฟัน หู และเล็บ

สำหรับฟันของสุนัข ผู้สอนต้องแปรงฟันอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง เพื่อต่อสู้กับปัญหาในช่องปาก เช่น หินปูน เหงือกอักเสบ และ แม้แต่กลิ่นปาก การทำความสะอาดหูของเกรทเดนเป็นสิ่งสำคัญมากในการหลีกเลี่ยงการติดเชื้อและการอักเสบในบริเวณนั้น ผู้สอนต้องทำโดยใช้สำลีแผ่นช่วย ต้องตัดแต่งเล็บเดือนละครั้งหรือสองครั้ง ขึ้นอยู่กับความต้องการของสัตว์ ทางที่ดีไม่ควรปล่อยไว้นานเกินไป มิฉะนั้นลูกสุนัขอาจทำร้ายตัวเองและคนอื่นๆ ได้

- อาหาร

การดูแลอาหารสุนัขสายพันธุ์เยอรมันเป็นงานที่ต้องเอาใจใส่ แต่ละช่วงอายุของสัตว์ต้องการอาหารประเภทต่างๆ นอกจากนี้ เนื่องจากเป็นสุนัขขนาดใหญ่ สุนัขเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะมีน้ำหนักเกิน ซึ่งอาจทำให้คุณภาพชีวิตของสุนัขลดลงอย่างมาก ต่อดังนั้น สิ่งสำคัญคือต้องระวังด้วยว่าลูกสุนัขของคุณมีน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมหรือไม่ หากได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคอ้วน จำเป็นต้องปรึกษาสัตวแพทย์ด้านโภชนาการเพื่อติดตามกรณีและดูว่าต้องเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างในอาหารของสัตว์

- การออกกำลังกายและพื้นที่สำหรับการสร้าง

ดังที่ได้กล่าวไปแล้ว เกรทเดนไม่ได้ตระหนักถึงขนาดมหึมาของมันมากนัก ซึ่งทำให้มันเป็นสุนัขที่เงอะงะมาก ดังนั้น ขอแนะนำให้เลี้ยงสัตว์ชนิดนี้ในสภาพแวดล้อมที่กว้างขวางกว่า โดยควรมีทางเดินไปที่สวนหลังบ้านเพื่อให้มันเคลื่อนไหวไปมาได้หลากหลาย แต่ข้อควรระวัง: ไม่ควรปล่อยออกไปนอกบ้านโดยเด็ดขาด - ทางที่ดีควรนอนในมุมสบาย ๆ แต่ก็ออกไปนอกบ้านได้เป็นครั้งคราวเช่นกัน แม้ว่าการฝึกออกกำลังกายเป็นส่วนสำคัญของกิจวัตรของสุนัขสายพันธุ์เยอรมัน เนื่องจากสัตว์เหล่านี้มีขนาดใหญ่ตามธรรมชาติ สิ่งสำคัญคือต้องกระตุ้นร่างกายทุกวันเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาทางร่างกายและจิตใจ

สิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับสุขภาพของสุนัขเกรทเดน

แม้ว่าโดยทั่วไปแล้วสุนัขสายพันธุ์เยอรมันจะแข็งแรงและค่อนข้างมีสุขภาพแข็งแรง แต่สุนัขสายพันธุ์เยอรมันมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคบางอย่างมากกว่า ข้อสะโพกเสื่อมเป็นตัวอย่างของอาการนี้ เนื่องจากเป็นภาวะที่มีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อสุนัขพันธุ์ใหญ่เป็นส่วนใหญ่ นอกจากนี้ การบิดตัวของกระเพาะอาหาร โรคอ้วนในสุนัข และpanosteitis (โรคที่ส่งผลต่อกระดูก) ก็เป็นปัญหาที่อาจส่งผลต่อสุนัขพันธุ์นี้เช่นกัน ดังนั้นควรปรึกษาสัตวแพทย์เป็นประจำเพื่อดูว่าสุขภาพสัตว์เลี้ยงของคุณเป็นอย่างไร วิธีนี้ช่วยตรวจหาโรคที่อาจเกิดขึ้นได้ตั้งแต่เนิ่นๆ และยังช่วยให้ตารางการฉีดวัคซีนของสัตว์ทันสมัยอยู่เสมอ

สุนัขเยอรมัน: ราคาของสุนัขสามารถสูงถึง R$7,000 เรียล

เนื่องจากเกรทเดนไม่ใช่สายพันธุ์ที่พบได้ทั่วไปในบราซิลและไม่เป็นที่ต้องการมากนัก เนื่องจากพวกมันต้องการ พื้นที่เพียงพอที่จะมีคุณภาพชีวิตที่ดี ไม่มีทางที่จะไม่ตกหลุมรักสุนัขตัวนี้ และสำหรับใครก็ตามที่ใฝ่ฝันอยากจะมีเพื่อนดีๆ (และคู่หูคู่ใจ) ที่บ้าน สุนัขพันธุ์เกรทเดนเป็นสายพันธุ์ที่ยอดเยี่ยมจริงๆ! แต่ก่อนอื่น สิ่งสำคัญคือผู้สอนต้องวิจัยคอกสุนัขที่เชื่อถือได้พร้อมข้อมูลอ้างอิงที่ดี เพื่อให้แน่ใจว่าสัตว์ทุกตัวในสถานที่นั้นได้รับการปฏิบัติอย่างดี และไม่เสี่ยงต่อการติด "กับดัก"

ช่วงราคาของลูกสุนัขเยอรมันเชพเพิร์ดมักจะอยู่ระหว่าง R$3,000 ถึง R$7,000 เรียล ซึ่งต้องมีการเตรียมการทางการเงิน เนื่องจากเป็นค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง มูลค่าอาจแตกต่างกันไปตามสายเลือดของสัตว์ และสุนัขที่สืบเชื้อสายมาจากแชมป์เปี้ยนอาจมีราคาแพงกว่าสุนัขตัวอื่นๆ นอกจากนี้ยังเป็นสุนัขที่ต้องการค่าใช้จ่ายทางการเงินสูงด้วยอาหารและการดูแล ดังนั้นหากวางแผนการเงินก่อนเลี้ยงน้องหมา!