แมวไม่มีขนจะหันหัวไปทางไหนก็ได้! เรามักจะเห็นลูกแมวที่มีขนหนานุ่มฟู จนเมื่อเราเห็นลูกแมว "หัวโล้น" เราก็ประหลาดใจ แต่ถ้าคุณคิดว่าสฟิงซ์เป็นแมวที่ไม่มีขนเพียงตัวเดียวที่มีอยู่ คุณคิดผิด! แมวเอลฟ์เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของแมวที่มีผิวหนังเปิดโล่งโดยไม่มีขนแบบดั้งเดิม เอลฟ์เป็นลูกแมวที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก แต่ส่วนใหญ่ก็เนื่องมาจากความจริงที่ว่ามันเป็นสายพันธุ์ล่าสุด คุณต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสายพันธุ์แมวไม่มีขนที่มีหูแหลมจนดูเหมือนเอลฟ์หรือไม่? ดูบทความด้านล่าง!

แมวสายพันธุ์เอลฟ์เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ใหม่ล่าสุดที่มีอยู่

ประวัติของแมวเอลฟ์นั้นล่าสุดมาก สายพันธุ์นี้ปรากฏในสหรัฐอเมริกาในปี 2549 ผู้เพาะพันธุ์ชาวอเมริกันสองคนชื่อ Kristen Leedon และ Karen Nelson ต้องการสร้างแมวที่ไม่มีขนที่มีหูโค้ง หนึ่งในเหตุผลที่อธิบายความปรารถนาของเขาในการสร้างสายพันธุ์นี้คือข้อเท็จจริงที่ว่าหนึ่งในนั้นแพ้แมว แต่รักแมว ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการแมวที่ไม่มีขนและแพ้ง่าย เพื่อให้ได้ผลลัพธ์นี้ แมวของสายพันธุ์ Sphynx จึงถูกผสมข้ามสายพันธุ์กับแมว American Curl ดังนั้นพวกเขาจึงให้กำเนิดแมวเอลฟ์ จนถึงทุกวันนี้ สายพันธุ์นี้ยังไม่ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการและมักจะมีลักษณะที่แตกต่างจากสายพันธุ์สฟิงซ์

เอลฟ์เป็นแมวไม่มีขน มีหูแหลมและมีกล้ามเนื้อ

ชื่อของแมวเอลฟ์บ่งบอกรูปร่างหน้าตาของมันได้มากมายอยู่แล้ว เขาได้รับชื่อนั้นอย่างแม่นยำเพราะเขามีลักษณะคล้ายกับเทพปกรณัมมาก พวกมันเป็นแมวที่มีหูแหลม ตัวใหญ่และโค้งไปข้างหลัง ร่างกายของแมวเอลฟ์มีกล้ามเนื้อมากและผิวหนังมีรอยย่นโดยเฉพาะบริเวณไหล่และปากกระบอกปืน หัวเป็นรูปสามเหลี่ยมและโหนกแก้มโดดเด่นมาก แม้จะเป็นแมวไม่มีขน แต่เอลฟ์ก็ไม่ได้ไม่มีการป้องกันอย่างสมบูรณ์ เช่นเดียวกับสฟิงซ์ พวกมันมีแสงส่องลงมาซึ่งมองเห็นได้ยาก แต่จะรู้สึกได้เมื่อคุณเอามือไปเหนือสัตว์ แมวเอลฟ์สามารถสูงได้ถึง 30 ซม. และน้ำหนักเฉลี่ยจะต่างกันระหว่าง 4 ถึง 7 กิโลกรัม

แมวเอลฟ์เป็นคนชอบเปิดเผย เข้ากับคนง่าย และน่ารัก

แมวเอลฟ์เป็นแมวที่เลี้ยงง่าย กับ. โดยทั่วไปแล้วแมวมักจะมีปัญหาในการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่ผิดไปจากกิจวัตรปกติ อย่างไรก็ตามเอลฟ์ไม่มีปัญหานี้! แมวไม่มีขนเหล่านี้ขึ้นชื่อเรื่องความสามารถในการปรับตัวที่ยอดเยี่ยมและรับมือกับสถานการณ์ที่ก่อให้เกิดความเครียดในสัตว์อื่นๆ ได้ดี เช่น การเปลี่ยนอาหารหรือย้ายบ้าน แมวเอลฟ์เข้ากับคนง่ายและเข้ากันได้ดีกับคนหรือสัตว์ทุกชนิด โดยเฉพาะแมวตัวอื่นๆ แมวตัวนี้ผูกพันกับครอบครัวมากและเกลียดการอยู่คนเดียว

แมวพันธุ์ไม่มีขนนี้ยังคงอยากรู้อยากเห็น กระตือรือร้น และฉลาดมาก ตามหลักการแล้วสัตว์เลี้ยงควรมีเสมอของเล่นแบบโต้ตอบสำหรับแมวที่จำหน่ายเพื่อกระตุ้นความรู้ความเข้าใจและใช้พลังงานอย่างมีสุขภาพดี เป็นที่น่าสังเกตว่าเอลฟ์เป็นแมวแนวตั้งซึ่งหมายความว่าเขาชอบที่จะปีนขึ้นไปบนที่สูง ด้วยเหตุนี้ การตกแต่งบ้านด้วยซอกและชั้นวางของจึงเป็นเคล็ดลับที่มีประโยชน์มากในการป้องกันไม่ให้มันปีนขึ้นไปบนเฟอร์นิเจอร์และหน้าต่าง

ผิวหนังของแมวไม่มีขนต้องการความพิเศษ การดูแล

แมวไม่มีขนไม่จำเป็นต้องแปรงขน อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญคือต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษอื่นๆ ในที่สุดผิวหนังของเอลฟ์ก็ไม่ได้รับการป้องกันมากขึ้นและสัมผัสกับรังสี UV ซึ่งมากเกินไปอาจทำให้เกิดแผลไหม้และแม้แต่มะเร็งผิวหนังในแมวได้ ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการออกไปกับแมวไม่มีขนในช่วงเวลาที่แดดแรงที่สุด นอกจากนี้ การลงทุนซื้อครีมกันแดดสำหรับแมวก็คุ้มค่า แม้จะอยู่ในร่ม

โดยปกติแล้ว เราไม่แนะนำให้อาบน้ำให้แมว อย่างไรก็ตาม ในกรณีของแมวเปลือยกาย สิ่งนี้จำเป็นเพื่อป้องกันการสะสมของสิ่งสกปรกบนผิวหนังและแม้แต่การปรากฏของอาการแพ้ในแมว อย่างไรก็ตาม โปรดทราบว่าการอาบน้ำแมวจะต้องได้รับการดูแลอย่างดีและใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับผิวหนังของสัตว์ เคล็ดลับอย่างหนึ่งคือการใช้ทิชชู่เปียกเพื่อทำความสะอาดสัตว์ ในที่สุดแมวที่ไม่มีขนจะรู้สึกหนาวขึ้นเนื่องจากไม่มีขนที่จะปกป้องมันจากอุณหภูมิที่ต่ำกว่า ดังนั้นอย่าลืมเก็บแมวไว้อุ่นในฤดูหนาวด้วยผ้าห่มและผ้าห่มพิเศษ

แมวไม่มีขน: ราคาของเอลฟ์อยู่ที่ประมาณ 5,000 เรียลบราซิล

หากคุณต้องการเลี้ยงแมวเอลฟ์ คุณจะต้องมองหา จนกว่าจะเจอที่ขาย แมวไม่มีขนสายพันธุ์นี้เป็นสายพันธุ์ล่าสุดและยังหายากมาก คุณจะต้องมีความอดทนอย่างมากและทำการค้นคว้ามากมายเพื่อค้นหาบางสำเนา แต่ท้ายที่สุดแล้วแมวพันธุ์นี้ราคาเท่าไหร่? โดยปกติราคาของ Elfo จะอยู่ที่ประมาณ 5,000 เหรียญสหรัฐ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีข้อมูลเกี่ยวกับการขายสัตว์ชนิดนี้เพียงเล็กน้อย ค่าจึงอาจแตกต่างกันไป สิ่งที่สำคัญที่สุดคือให้ความสนใจอย่างใกล้ชิดกับสถานที่ที่คุณจะซื้อสัตว์เลี้ยง ค้นหาสถานที่เลี้ยงแมวที่เชื่อถือได้ให้ดีเพื่อให้แน่ใจว่าคุณกำลังซื้อแมวเอลฟ์ในสถานที่ที่ให้ความเคารพและคุณภาพชีวิตของสัตว์