ทำไมแมวถึง "ดูด" บนผ้าห่ม? ค้นหาว่าพฤติกรรมนั้นเป็นอันตรายหรือไม่
สารบัญ
ไม่ใช่เรื่องยากที่จะหาแมวที่มีนิสัยชอบกัดผ้าห่มราวกับว่ามันกำลังกินแม่แมว (และสุนัขก็สามารถแสดงพฤติกรรมเดียวกันได้เช่นกัน) แมวกัดผ้าห่มอาจถือเป็นช่วงเวลาที่แสนหวานสำหรับคนเลี้ยงแมวบางคน แต่เจ้าของคนอื่นๆ อาจสงสัยว่าพฤติกรรมของแมวนี้เป็นอันตรายหรือเผยให้เห็นความเปราะบางในตัวแมวหรือไม่ สาเหตุที่แมวกัดผ้าห่มมีหลากหลาย และในบางกรณีอาจเป็นพฤติกรรมที่น่าเป็นห่วง เราไปหาคำตอบที่อธิบายว่าแมวดูดผ้าห่ม
แมวกัดผ้าห่ม: อะไรคือสาเหตุที่อยู่เบื้องหลังพฤติกรรมนี้
สาเหตุหลักที่ลูกแมวแสดงพฤติกรรมแบบนี้เป็นเพราะ พวกเขาถูกแยกออกจากครอกเร็วเกินไป เมื่อแมวถูกพรากจากแม่ก่อนอายุแปดสัปดาห์ มันรู้สึกว่าจำเป็นต้องชดเชยเวลาให้นมด้วยผ้าห่ม ผ้านวม หรือเสื้อผ้า เช่นเดียวกับที่มนุษย์ทารกดูดนิ้วหัวแม่มือ แมวก็สามารถใช้ผ้าห่มเพื่อเพิ่มความรู้สึกสบายตัวได้ ความเป็นอยู่ที่ดีที่เกิดจากพฤติกรรมจะทำให้เขารู้สึกปลอดภัย
สายพันธุ์ของสัตว์อาจเป็นเหตุผลว่าทำไมแมวถึงให้นมภายใต้ที่กำบัง ยกตัวอย่างเช่น แมววิเชียรมาศมักจะแสดงพฤติกรรมดังกล่าว เนื่องจากแมวสายพันธุ์นี้ต้องการระยะเวลาหย่านมที่นานขึ้นยาว
ตอนนี้เมื่อแมวนั่งบนตักของผู้สอนและทำบนเสื้อผ้าของเขา หมายความว่าลูกแมวรู้สึกปลอดภัยมากเมื่ออยู่ร่วมกับมนุษย์ แมวมักจะตื่นตัวอยู่เสมอ ดังนั้นช่วงเวลาเช่นนี้หมายความว่าแมว "ลดการป้องกันลง" เพราะมันไว้ใจมนุษย์
ดูสิ่งนี้ด้วย: คุณสังเกตเห็นสุนัขอุจจาระมีมูกหรือไม่? ดูว่ามันบ่งบอกอะไรได้บ้างและควรทำอย่างไร
ดูสิ่งนี้ด้วย: บอมเบย์: เรียนรู้เกี่ยวกับสายพันธุ์แมวดำที่ดูเหมือนเสือดำ
แมวที่ดูดนม ผ้าห่ม : พฤติกรรมเริ่มน่าเป็นห่วงเมื่อใด
หากสาเหตุที่แมวดูดผ้าห่มเป็นเพราะการแยกขยะเร็วก็ไม่มีอะไรต้องกังวล เพราะแมวจะมีพฤติกรรมนี้ก็ต่อเมื่อ ต้องการรู้สึกปลอดภัย อย่างไรก็ตาม คุณควรระวังเมื่อพฤติกรรมดังกล่าวเกิดขึ้นบ่อยจนแทบจะบังคับ นี่อาจหมายความว่าแมวมีความเครียดและความวิตกกังวลในระดับสูง แมวที่เครียดมักจะป่วยและเกิดโรคร้ายแรง เช่น ปัญหาทางเดินปัสสาวะและภาวะความรู้สึกผิดปกติของแมว
แมวที่ให้นมบนผ้าห่มบ่อยเกินไป: จะทำอย่างไร
สิ่งแรก สิ่งที่คุณควรใส่ใจคือแมวแสดงอาการเครียดอื่นๆ หรือไม่ เช่น ร้องเสียงดัง ออกไปนอกกระบะทราย แยกตัว หรือก้าวร้าว ให้ความสนใจกับกิจวัตรของคิตตี้และลงทุนในของเล่นและเกมเพื่อให้เขารู้สึกมีความสุขและปลอดภัยมากขึ้น หากพฤติกรรมยังคงอยู่ สิ่งสำคัญอย่างยิ่งคือต้องปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อทำความเข้าใจผลกระทบของความเครียดต่อร่างกายของสัตว์