พบได้บ่อยมากในสุนัขสูงอายุ ภาวะไตวายในสุนัขเป็นหนึ่งในโรคที่พบบ่อยที่สุดที่อาจส่งผลต่อระบบทางเดินปัสสาวะของสุนัข อวัยวะต่างๆ เช่น ไตและกระเพาะปัสสาวะของสุนัขมีหน้าที่กำจัดสารพิษออกจากร่างกายและเพื่อให้ร่างกายทำงานได้อย่างถูกต้อง เมื่อพวกเขาได้รับบาดเจ็บหรือทรุดโทรมด้วยเหตุผลบางอย่าง ร่างกายทั้งหมดจะได้รับผลกระทบและลูกสุนัขจะได้รับผลกระทบที่ตามมา แม้ว่าโรคในระบบทางเดินปัสสาวะที่มีชื่อเสียงที่สุดคือการติดเชื้อในไต สุนัขยังประสบปัญหาอื่นๆ เช่น นิ่วในไตและนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ แต่คุณรู้หรือไม่ว่าโรคเหล่านี้แสดงออกอย่างไร? หรือไตมีหน้าที่อะไรและทำไมจึงมีความสำคัญต่อการทำงานของร่างกาย? Patas da Casa เคลียร์ทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับโรคระบบทางเดินปัสสาวะของสุนัข หากคุณต้องการทราบว่าสุนัขที่เป็นโรคไตวายรู้สึกเจ็บปวดหรือไม่ นิ่วในไตก่อตัวอย่างไร และวิธีป้องกันไม่ให้สัตว์เลี้ยงของคุณมีปัญหาเหล่านี้ โปรดดูบทความด้านล่างนี้!

โรคไตในสุนัข: ทำความเข้าใจระบบทางเดินปัสสาวะ สุนัขทำงาน

ระบบทางเดินปัสสาวะมีหน้าที่สร้างสมดุลของความเข้มข้นของสารในร่างกายผ่านการผลิตและกำจัดปัสสาวะ ร่างกายของสุนัขมีปฏิกิริยาเมแทบอลิซึมประเภทต่างๆ ตลอดเวลา ในแต่ละปฏิกิริยา จะมีการผลิตสารพิษบางอย่างที่ต้องกำจัดออกจากร่างกาย นี่คือที่มาของระบบทางเดินปัสสาวะซึ่งมีท่อปัสสาวะท่อไต ไต และกระเพาะปัสสาวะของสุนัข อวัยวะเหล่านี้กรองเลือดและ "รวบรวม" สารเหล่านี้สร้างปัสสาวะ ฉี่สุนัขจะถูกกำจัดและนำสารพิษเหล่านี้ไปด้วย เมื่อมีปัญหาในอวัยวะในระบบทางเดินปัสสาวะของสุนัข เราจะมีโรคต่างๆ เช่น ไตวายในสุนัขหรือนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ

ไตของสุนัขอยู่ที่ไหน? ทำความเข้าใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำงานของอวัยวะในระบบทางเดินปัสสาวะ

ไตเป็นหนึ่งในอวัยวะหลักของระบบทางเดินปัสสาวะของสุนัข ไตของสุนัขจะทำหน้าที่กรองเลือดและสร้างปัสสาวะ ขจัดสารพิษ (เช่น ยูเรียและครีเอตินิน) ออกจากร่างกาย อวัยวะที่สำคัญอีกอย่างคือกระเพาะปัสสาวะ สุนัขจะไม่ฉี่ทันทีหลังจากที่ไตกรองเลือดแล้ว เนื่องจากสิ่งนี้เกิดขึ้นตลอดเวลา ดังนั้นปัสสาวะจึงถูกเก็บไว้ในกระเพาะปัสสาวะของสุนัขซึ่งทำหน้าที่เป็นถุงที่ขยายออกตามปริมาณฉี่ที่อยู่ในนั้น สิ่งที่เชื่อมต่อไตกับกระเพาะปัสสาวะของสุนัขคือท่อไต ท่อปัสสาวะเป็นช่องทางที่สัตว์เลี้ยงกำจัดฉี่ของสุนัข

ภาวะไตวายในสุนัขคืออะไร

น่าเสียดายที่ไตของสุนัขสูญเสียการทำงานเมื่ออายุมากขึ้นหรือได้รับบาดเจ็บตลอดชีวิต . เมื่อเป็นเช่นนี้ เราก็มีกรณีของไตวายในสุนัข ซึ่งเป็นภาวะร้ายแรงที่ไตหยุดทำงาน หากสิ่งไม่ดีไม่ได้ผลร่างกายก็จะขับสารพิษออกมาจะไม่ถูกกรองหรือลบออก ดังนั้นจึงมีการสูญเสียน้ำมากเกินไปและสารพิษในร่างกายมีความเข้มข้นสูง ทำให้เกิดความไม่สมดุลของไอออนิก ดังนั้นสุนัขที่มีปัญหาเกี่ยวกับไตจึงมีภาวะขาดน้ำและยูเรียสูง นอกเหนือไปจากปัญหาสุขภาพอื่นๆ

ไตวายในสุนัขอาจมีสาเหตุจากพันธุกรรมหรือที่ได้มา

เซลล์ไต (เซลล์ไต) จะเสื่อมลง ล่วงเวลา. ดังนั้นเป็นเรื่องปกติที่สุนัขอายุมากขึ้น ไตจะสูญเสียหน้าที่และประสบกับภาวะไตวาย สุนัขอาจมีความบกพร่องทางพันธุกรรมมากกว่าในการพัฒนาโรค นี่เป็นกรณีของบางสายพันธุ์เช่น German Spitz, Golden Retriever และ Yorkshire ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคไตมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีสาเหตุอื่นๆ อีกหลายประการที่ทำให้เกิดภาวะไตวายในสุนัข เช่น การใช้ยาบางชนิด ปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ การติดเชื้อ และการกลืนกินผลิตภัณฑ์ที่เป็นพิษ ไตวายในสุนัขเป็นโรคที่พบได้บ่อยที่สุดในสุนัขแก่ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ส่งผลต่อสุนัขอายุน้อย

ไตวายในสุนัข สุนัขเรื้อรัง Acute X

เราจะเห็นว่ามีสาเหตุหลายประการที่ทำให้ไตวาย สุนัขสามารถเป็นโรคได้สองประเภทขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้เกิดโรค โรคไตเรื้อรังมีต้นกำเนิดจากพันธุกรรมและมักจะแสดงออกมาตลอดชีวิตของสัตว์ ตามสภาพอากาศผ่านไป ไตของสุนัขจะสูญเสียการทำงาน ประเภทของโรคไตเรื้อรังไม่มีทางรักษาให้หายได้ แต่มีการรักษาที่ต้องทำไปตลอดชีวิตเพื่อพัฒนาความเป็นอยู่ของคุณ ในทางกลับกัน ภาวะไตวายเฉียบพลันเกิดจากสาเหตุอื่นนอกเหนือจากพันธุกรรม โรคไตประเภทนี้มักเกิดขึ้นอย่างกะทันหันและลุกลามมากขึ้น แต่เนื่องจากไม่ใช่ปัญหาทางกรรมพันธุ์ จึงสามารถรักษาให้หายได้ สำหรับสิ่งนี้การรักษาจะต้องเริ่มทันที

สุนัขจะแสดงอาการอย่างเงียบๆ ในภาวะไตวาย

ภาวะไตวายในสุนัขเป็นที่รู้กันว่าเป็นโรคภัยเงียบ โดยปกติสัญญาณแรกเริ่มปรากฏขึ้นเมื่อไตถูกทำลายไปแล้วเท่านั้น ดังนั้นผู้สอนมักจะตระหนักถึงโรคได้ก็ต่อเมื่ออาการของระยะสุดท้ายของภาวะไตวายในสุนัขปรากฏขึ้นแล้ว ความไม่แยแส มีไข้ อาเจียน และท้องเสียเป็นสัญญาณที่พบบ่อยที่สุด นอกจากนี้ เนื่องจากสุนัขที่มีปัญหาเกี่ยวกับไตสูญเสียของเหลวจำนวนมาก เราจะเห็นว่าสัตว์เลี้ยงเริ่มดื่มน้ำในปริมาณที่มากขึ้นเพื่อชดเชย นอกจากนี้ยังมีความถี่ในการปัสสาวะและปริมาณฉี่สุนัขเพิ่มขึ้นด้วย

สุนัขที่เป็นโรคไตวายจะรู้สึกเจ็บปวดหรือไม่?

ในภาวะไตวาย สุนัขมักจะแสดงอาการอย่างเงียบๆ พวกมันบอบบางมากและด้วยเหตุนี้หลายคนจึงมีคำถามเกี่ยวกับความเจ็บปวด สุนัขที่เป็นโรคไตวายจะรู้สึกเจ็บปวดหรือไม่? ไม่ใช่สัญญาณคลาสสิก แต่อาจเป็นอาการระยะสุดท้ายของไตวายในสุนัข เมื่อระดับครีเอทีนสูงมากจนทำให้ปวดท้อง ดังนั้นไม่ใช่สุนัขทุกตัวที่จะมีปัญหานี้ แต่ก็สามารถเกิดขึ้นได้ นั่นคือสุนัขที่เป็นโรคไตวายจะรู้สึกเจ็บปวดขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรคและการตอบสนองของร่างกายของสัตว์แต่ละชนิด

นิ่วในไตเป็นอีกโรคหนึ่งที่อาจส่งผลต่อไตของสุนัข

นิ่วในไตเป็นนิ่วในไตที่มีชื่อเสียง เกิดขึ้นเมื่อมีการสะสมของแร่ธาตุในร่างกายโดยไม่ได้ถูกกำจัดออกไป ปัญหานี้เกี่ยวข้องกับสุนัขที่ดื่มน้ำน้อย การดื่มน้ำน้อยก่อให้เกิดการก่อตัวของก้อนกรวดซึ่งทำให้เกิดความเจ็บปวดและปัสสาวะลำบาก เป็นเรื่องปกติที่จะเห็นสุนัขฉี่เป็นเลือดในปริมาณที่น้อยกว่า

นิ่วในกระเพาะปัสสาวะของสุนัขยังทำให้เกิดความเจ็บปวดและปัสสาวะลำบาก

การคำนวณไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในไตเท่านั้น พวกเขาสามารถปรากฏในอวัยวะใด ๆ ของระบบทางเดินปัสสาวะ โดยนิ่วในกระเพาะปัสสาวะเป็นเรื่องปกติมาก สุนัขที่มีปัญหานี้ยังทนทุกข์ทรมานจากการปัสสาวะลำบากอย่างมาก นอกจากนี้สถานที่ซึ่งเป็นที่ตั้งของกระเพาะปัสสาวะของสุนัขยังถูกบุกรุกโดยการคำนวณซึ่งทำให้เกิดการกักเก็บของเหลว เป็นผลให้สัตว์เลี้ยงรู้สึกปวดมาก นิ่วในกระเพาะปัสสาวะของสุนัขมักเป็นผลมาจากการกินอาหารที่ไม่ดี เมื่อสัตว์ไม่ได้รับสารอาหารที่จำเป็นและดื่มน้ำน้อย

สุนัขฉี่ด้วย เลือด: เป็นอาการที่พบได้บ่อยในปัญหาทางเดินปัสสาวะหลายอย่าง

หากคุณสังเกตเห็นสุนัขฉี่เป็นเลือด ให้ตื่นตัวอยู่เสมอ นี่เป็นสัญญาณเสมอว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับระบบทางเดินปัสสาวะของสุนัข การมีนิ่วในไตและกระเพาะปัสสาวะของสุนัขอาจทำให้เกิดภาวะนี้ได้ แต่โรคอื่นๆ ก็สามารถเป็นสาเหตุได้เช่นกัน ไตวายในสุนัขอาจเป็นสาเหตุของอาการนี้ ในบรรดาโรคที่ทำให้สุนัขฉี่เป็นเลือด เราสามารถพูดถึง: เนื้องอกในบางส่วนของระบบทางเดินปัสสาวะ มึนเมา ปัญหาการแข็งตัวของเลือด การอักเสบ การบาดเจ็บ และการติดเชื้อ เมื่อคุณเห็นสุนัขฉี่เป็นเลือด ให้พาสัตว์เลี้ยงไปหาสัตวแพทย์เพื่อทำการทดสอบ

ปัสสาวะของสุนัขที่มีกลิ่นแรงอาจเป็นสัญญาณของการดื่มน้ำน้อย

อาการอีกอย่างหนึ่งที่พบได้บ่อยในโรคไตหลายชนิดคือปัสสาวะของสุนัขที่มีกลิ่นแรง โดยปกติแล้วฉี่สุนัขจะมีกลิ่นเฉพาะตัวอยู่แล้ว แต่ในกรณีนี้ เรากำลังพูดถึงกลิ่นที่รุนแรงกว่ามาก ซึ่งมักจะถูกเปรียบเทียบกับกลิ่นของปลา โดยปกติแล้ว ปัสสาวะสุนัขที่มีกลิ่นแรงจะส่งสัญญาณถึงการติดเชื้อ ส่วนใหญ่มักเกิดที่ไตหรือกระเพาะปัสสาวะ ลูกหมาอาจยังมีสารความเข้มข้นสูงที่ยังไม่ถูกกำจัดออกไป นั่นคือสัตว์เลี้ยงไม่ได้ฉี่ในปริมาณที่เหมาะสม นั่นเป็นสัญญาณเตือน เพราะการฉี่น้อยหมายความว่าเขากำลังกลั้นปัสสาวะหรือดื่มน้ำไม่เพียงพอ ทั้งสองกรณีสามารถนำไปสู่โรคในระบบทางเดินปัสสาวะ

สุนัขของฉันปัสสาวะไม่ออก: จะทำอย่างไร?

สุนัขที่ฉี่เล็กน้อยมักเป็นสัญญาณเตือนสำหรับสุนัขที่มีปัญหาเกี่ยวกับไต สัตว์จำเป็นต้องมีความถี่ในการปัสสาวะที่เพียงพอ เนื่องจากฉี่สุนัขจะสร้างความสมดุลของอิออนทั้งหมดในร่างกาย เมื่อสุนัขไม่ฉี่หรือฉี่น้อยลงกว่าเดิมมาก มีโอกาสสูงที่จะเกิดสิ่งผิดปกติในระบบทางเดินปัสสาวะของสัตว์เลี้ยง แต่สุดท้ายแล้วสุนัขของฉันไม่สามารถปัสสาวะได้: จะทำอย่างไร? สิ่งสำคัญคือการพาสัตว์เลี้ยงไปหาสัตว์แพทย์ เขาจะทำการทดสอบเพื่อตรวจสอบว่ามีอะไรผิดปกติเกี่ยวกับนิ่วในไตหรือกระเพาะปัสสาวะหรือไม่ สังเกตหากมีอาการอื่นๆ เช่น สุนัขฉี่เป็นเลือด และแจ้งให้สัตวแพทย์ทราบทุกอย่าง สุนัขที่ไม่ฉี่เป็นสัญญาณเตือนเสมอ ดังนั้นอย่าเสียเวลาไปหาสัตว์แพทย์

อาหารสำหรับไต: สุนัขที่มีปัญหาเกี่ยวกับไตสามารถได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงอาหาร

สุนัขที่มีปัญหาเกี่ยวกับไตจำเป็นต้องได้รับการป้องกันตลอดชีวิตเพื่อป้องกันไม่ให้สถานการณ์แย่ลงและมีอาการมากขึ้นความเป็นอยู่ที่ดี ท่ามกลางข้อควรระวังเหล่านี้ การเปลี่ยนแปลงอาหารถือเป็นพื้นฐาน เคล็ดลับที่ดีคือการเปลี่ยนอาหารปกติสำหรับอาหารไต สุนัขที่มีปัญหาทางเดินปัสสาวะเรื้อรังจะได้รับประโยชน์อย่างมากจากการเปลี่ยนแปลงนี้ เนื่องจากอาหารที่ไตมีความเข้มข้นของสารที่เป็นอันตรายต่อไตต่ำกว่า นอกจากนี้ ด้วยอาหารไต สุนัขยังได้รับสารอาหารพิเศษ (เช่น โอเมก้า 3) ซึ่งมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ ช่วยต่อสู้กับการอักเสบทั่วร่างกาย รวมถึงระบบทางเดินปัสสาวะ ด้วยการใช้อาหารไต สุนัขที่เป็นโรคไตเรื้อรังหรือมีแนวโน้มที่จะพัฒนาปัญหานี้จะได้รับการคุ้มครองมากขึ้น พูดคุยกับสัตวแพทย์ของคุณเพื่อทำความเข้าใจวิธีการดำเนินการเปลี่ยนแปลงอาหารนี้อย่างเหมาะสม

ป้องกันไตวายในสุนัขและโรคไตอื่นๆ ได้อย่างไร?

ดังที่เราได้อธิบายไป สุนัขบางสายพันธุ์มีแนวโน้มที่จะเป็นโรคไต ในกรณีนั้นไม่มีวิธีป้องกันโรค แต่สามารถป้องกันไม่ให้กลายเป็นสิ่งที่ร้ายแรงกว่าได้ ในการทำเช่นนี้ ให้เฝ้าดูความชุ่มชื้นของสัตว์ กระตุ้นให้สุนัขดื่มน้ำมากขึ้น และใช้ประโยชน์จากอาหารไต สุนัขทุกสายพันธุ์สามารถเกิดโรคในระบบทางเดินปัสสาวะได้ตลอดชีวิต ดังนั้นควรดูแลไม่ให้พวกมันต้องผ่านปัญหานี้ ลงทุนในน้ำพุสุนัขหรือวิธีอื่น ๆ เพื่อส่งเสริมการให้ความชุ่มชื้น ตรวจสุขภาพพาไปพบสัตว์แพทย์บ่อยๆ ดูแลอาหารตามอายุและขนาดของมัน พาไปออกกำลังกายสม่ำเสมอ และทำบัตรวัคซีนให้ทันสมัยอยู่เสมอ