โรคหัวใจเป็นโรคที่ส่งผลต่อหัวใจของสุนัข คาดว่าหนึ่งในสิบของสุนัขจะพัฒนาปัญหาประเภทนี้ ซึ่งการรักษาอาจใช้เวลาตลอดชีวิต ตัวอย่างเช่น สุนัขที่มีเสียงบ่นของหัวใจ โรคคาร์ดิโอไมโอแพที หรือภาวะหัวใจล้มเหลว ต้องการการเปลี่ยนแปลงในกิจวัตรประจำวันเพื่อปรับปรุงความเป็นอยู่ที่ดี แต่ท้ายที่สุดแล้วสุนัขหัวใจวายจะอยู่ได้นานแค่ไหน? เป็นไปได้ไหมว่าด้วยยาเท่านั้น (สำหรับภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะในสุนัข ความไม่เพียงพอ หรือปัญหาอื่นๆ) สัตว์เลี้ยงจะมีชีวิตอยู่ได้นานเพียงพอหรือไม่? Paws da Casa พูดคุยกับ Lucas Zagatto สัตวแพทย์ที่จบปริญญาโทสาขาหทัยวิทยา เขาถามคำถามเหล่านี้และคำถามอื่นๆ เกี่ยวกับโรคหัวใจและสอนสิ่งที่ต้องทำระหว่างที่สุนัขหัวใจหยุดเต้น ลองดูสิ!

สัญญาณของโรคหัวใจในสุนัขที่พบบ่อยที่สุดคืออะไร

โรคหัวใจในสุนัขมีหลายประเภท แต่ละประเภทมีลักษณะเฉพาะ อย่างไรก็ตาม โดยรวมแล้วมีอาการบางอย่างที่มักจะแสดงออกมาในส่วนใหญ่ ลูคัสสัตวแพทย์อ้างว่า:

• หายใจลำบากหรือหายใจลำบาก
• ไอต่อเนื่อง
• ไม่แยแส
• บวมในช่องท้องหรือใน ขา
• เหนื่อยง่ายหรืออ่อนแรง
• เบื่ออาหาร
• เป็นลม

ระวังหัวใจเต้นผิดจังหวะ (หัวใจเต้นผิดจังหวะ) สุนัขไม่ควรมีหัวใจเต้นเร็วหรือช้าเกินไป มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะอยู่เอาใจใส่โดยเฉพาะปัญหาอาการเหนื่อยง่าย หายใจลำบาก และอาการไอในหัวใจของสุนัข เนื่องจากการรักษาอย่างรวดเร็วเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการหลีกเลี่ยงผลกระทบที่ร้ายแรงกว่านั้น จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เจ้าของควรไปพบสัตวแพทย์หากมีอาการใดๆ

เหตุใดภาวะหัวใจล้มเหลวจึงทำให้เกิดอาการไอในสุนัข วิธีรักษา และอาการเป็นอย่างไร

ภาวะหัวใจล้มเหลว (CHF) เป็นหนึ่งในโรคหัวใจที่ร้ายแรงที่สุด "ลักษณะพิเศษคือเลือดสูบฉีดไม่เพียงพอ ดังนั้น เลือดจึงมีแนวโน้มที่จะสะสมในหลอดเลือด ขัดขวางการไหลเวียนตามปกติ" ลูคัสอธิบาย อันตรายอย่างหนึ่งของ CHF คือการก่อตัวของอาการบวมน้ำเมื่อของเหลวสะสมในบางส่วนของร่างกาย "เมื่อมันเกิดขึ้นในปอด อาการหลักคือเหนื่อยและไอ สัญญาณของโรคอีกอย่างคือท้องมาน ซึ่งเป็นลักษณะของการสะสมของของเหลวในช่องท้อง" สุนัขไออาจเป็นสัญญาณของภาวะหัวใจล้มเหลว ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องระวังอาการไอในสุนัข จะบรรเทาปัญหานี้ได้อย่างไร? โดยปกติแล้ว ยาขับปัสสาวะจะถูกใช้เนื่องจากช่วยขับของเหลวส่วนเกินออก ทำให้การหายใจดีขึ้น

สุนัขที่มีอาการหัวใจเต้นผิดปกติหมายความว่าอย่างไร

คุณอาจเคยได้ยินสุนัขร้องเสียงหัวใจ แต่คุณอาจไม่ทราบว่ามันคืออะไร "มันเป็นลักษณะของความล้มเหลวทางกายวิภาคของวาล์วที่นำไปสู่การขาดการควบคุมในทางเดินของเลือดและอาจนำไปสู่ภาวะหัวใจล้มเหลวได้" เขาอธิบาย เมื่อระบุสุนัขที่มีเสียงบ่นของหัวใจ สัตวแพทย์จะยืนยันการวินิจฉัยโรคลิ้นหัวใจ ซึ่งเป็นหนึ่งในโรคหัวใจที่พบบ่อยที่สุดในสุนัข "นี่คือ โรคที่ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงต่อหัวใจ พบได้บ่อยในสุนัขพันธุ์เล็ก เช่น พินเชอร์ มอลทีส ยอร์คเชียร์ และพุดเดิ้ล"

สุนัขหัวใจพิการจะมีชีวิตอยู่ได้นานแค่ไหน

ไม่สามารถระบุได้อย่างแน่ชัดว่าสุนัขหัวใจโตจะมีชีวิตอยู่ได้นานแค่ไหน เนื่องจากแต่ละกรณีจะแตกต่างกัน โรคหัวใจมักเกิดกับสุนัขสูงวัย (อายุตั้งแต่ 7 ปีขึ้นไป) อันที่จริง ลูคัสอธิบายว่าปัญหาหัวใจเป็นสาเหตุใหญ่ที่สุดสาเหตุหนึ่ง ของการเสียชีวิตในสุนัขสูงอายุ ในปัจจุบัน มีการรักษาและยาสำหรับภาวะหัวใจล้มเหลวในสุนัขหลายประเภท รวมถึงโรคหัวใจอื่น ๆ ดังนั้นสุนัขหัวใจวายจะอยู่ได้นาน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคุณภาพชีวิตที่มอบให้ ถึงสุนัข สุนัขที่มีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ การรักษาที่เหมาะสม และการติดตามสัตวแพทย์

วิธีปรับปรุงคุณภาพชีวิตของสุนัขที่เป็นโรคหัวใจ?

สำหรับสุนัขที่มีอาการ ปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ การรักษานั้นนอกเหนือไปจากการใช้ยา คุณภาพชีวิตที่ดีเป็นสิ่งสำคัญในการเพิ่มอายุขัยของสุนัขโรคหัวใจ ข้อควรระวังบางอย่างต้องทำเป็นประจำทุกวัน “สัตว์ได้รับยาและขึ้นอยู่กับระยะของโรคที่มีการระบุอาหาร ทุกวันนี้มีการปันส่วนสูตรพิเศษโดยนักโภชนาการและสัตวแพทย์สำหรับสัตว์ที่มีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ" ผู้เชี่ยวชาญกล่าว นอกจากนี้ การออกกำลังกายก็สามารถช่วยได้มาก "การออกกำลังกายก็มีความสำคัญเช่นกัน เพราะจะช่วยปลดปล่อยสารบางอย่างที่พวกเขา จะช่วยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น" เขาชี้แจง พูดคุยกับสัตวแพทย์เสมอและอย่าพูดเกินจริงถึงความเข้มข้นของการออกกำลังกาย "หากคุณได้รับการดูแลที่จำเป็น สุนัขของคุณสามารถมีชีวิตอยู่ได้เป็นเวลานาน" ลูคัสกล่าวเสริม <1

จะทำอย่างไรเมื่อพบเห็นสุนัขหัวใจหยุดเต้น

อาการหัวใจวายในสุนัขจะแสดงอย่างกะทันหัน เนื่องจากเจ้าของไม่ทันตั้งตัว สิ่งสำคัญคือต้องรู้ว่าอะไร ขั้นตอนการปฏิบัติในกรณีนี้ คุณต้องรู้จักอาการหัวใจวายในสุนัข อาการทั่วไปคือ หมดสติ ลิ้นสีม่วง หายใจเปลี่ยนแปลง กระตุก รูม่านตาขยาย และหัวใจเต้นลดลงกะทันหัน ควรพาสุนัขไปหาสัตวแพทย์ โดยทันที.

เนื่องจากเป็นสิ่งสำคัญที่สุนัขจะมีอาการหัวใจวายเฉียบพลันต้องได้รับการรักษาโดยเร็วที่สุด คุณอาจต้องใช้วิธีช่วยชีวิตระหว่างทางไปโรงพยาบาล ผู้เชี่ยวชาญ Lucas สอนคุณว่า: "วางฝ่ามือของคุณเหนือหัวใจสุนัข ทำแน่น กดและปล่อยอย่างรวดเร็ว (กดและปล่อยอย่างรวดเร็วหนึ่งครั้งต่อวินาที) กดหน้าอกระหว่าง 100 ถึง 120 ครั้งต่อนาที การกดหน้าอกทุกๆ 30 ครั้ง ให้ทำการหายใจ 2 ครั้ง "การช่วยหายใจแบบปากต่อจมูก" คุณสามารถดำเนินการเหล่านี้ได้จนกว่าจะถึงห้องฉุกเฉินที่ใกล้กับภูมิภาคของคุณมากที่สุดเพื่อรับความช่วยเหลืออย่างดีที่สุดด้วยความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ" เขาแนะนำ